ไม่ว่าจะทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดให้เก่ง การฝึกฝน ฝึกซ้อม คือหัวใจสำคัญ สำหรับ “ฟุตบอล” ก็ไม่ต่างกัน ไม่มีนักเตะระดับโลกคนไหนเก่งได้โดยไม่ซ้อม และการฝึกซ้อมที่สำคัญที่สุดที่ปฏิเสธไม่ได้เลยก็คือ “การแข่งขัน” เพราะการแข่งขันคือ “สนามจริง” ที่นักเตะไม่ว่าจะรุ่นอายุเท่าใดก็ตาม การได้ลงสนามจริง เตะจริง แข่งจริง คือการสะสมประสบการณ์ และเป็นการฝึกฝนที่จริงที่สุด ที่จะได้ใช้ทุกการซ้อม ทุกทักษะที่โค้ชสอนมา ที่เรียนมา ที่หัดมาเพื่อ “ปล่อยของ” โชว์ศักยภาพด้วย พัฒนาฝีเท้าด้วย และเก็บประสบการณ์ด้วยไปพร้อมๆ กัน

โครงการ “Grow Together” จากความพยายามของ พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่เข้าหารือกับ FIFA ถึงวิถีแห่งความยั่งยืนเพื่อ “บอลไทย” จึงได้รับมอบ โครงการ “Grow Together” อันเป็น “คู่มือ” การจัดทำโครงสร้างระบบนิเวศ หรือ Ecosystem ของฟุตบอล ที่ FIFA โดย อาร์แซน แวงแกร์ ประธานพัฒนาเทคนิคของ FIFA และอดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ออกแบบและพัฒนาจนได้มาตรฐาน ซึ่งประเทศไทยเป็น “ประเทศแรก” ที่ FIFA มอบระบบนี้มาให้วางรากฐาน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาฝีเท้านักเตะด้วยการ “แข่งขัน” จึงเป็นที่มาของ 1 ใน 6 เสาหลัก นั่นคือ Competitions

Competitions ในที่นี้คือการจัดการแข่งขันระดับ YOUTH LEAGUE หรือ การจัดการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชนโดยสมาคมฯ ในรุ่นอายุไม่เกิน 14,16 และ 18 ปี  ถือหนึ่งในกิจกรรมหลักของโครงการ Grow Together ที่ได้รับการสนับสนุน และกำกับดูแลจากผู้เชี่ยวชาญจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ FIFA ภายใต้แนวคิด FIFA Talent Development Scheme และเป็นหนึ่งในระบบ Thai's Football Ecosystem โดยการแข่งขันที่ถูกจัดขึ้นนี้ จะเป็นเสมือนเวทีเพื่อพัฒนาเยาวชนในแต่ละรุ่น เค้นศักยภาพให้ “ทีมค้นหานักเตะแววดี (Scout)” ได้เห็น จากนั้นทีมนี้จะได้สังเกตติดตามต่อเนื่องและพาเยาวชนเหล่านั้นเข้าระบบ ต่อยอดไปสู่ทีมชาติ  

YOUTH LEAGUE โดยสมาคมฯ ได้รับความอนุเคราะห์และร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะจากทั้งอคาเดมีและสโมสรที่เข้าร่วม ตลอดจนโค้ชที่เข้ามาคุมทีม และนักกีฬา เพราะทุกฝ่ายมีความมุ่งหวังอยากเห็นความยั่งยืนของฟุตบอลไทยไม่ต่างกัน ซึ่งทั้งอคาเดมีและสโมสรที่เข้าร่วมนี้จะได้รับการบันทึกข้อมูลในฐานข้อมูลและอยู่ในระบบสถิติของสมาคมฯ ทั้งหมด อคาเดมีที่เข้าร่วมต้องได้รับการรับรองมาตรฐานตามระดับในฐานะสมาชิกของสมาคมฯ นักกีฬาต้องถูกลงทะเบียน โค้ชต้องมีใบอนุญาตตามมาตรฐานของสมาคมฯ (ซึ่ง License จะเทียบเท่า AFC และ FA Thailand) 

รูปแบบของการแข่งขัน YOUTH LEAGUE โดยสมาคมฯ จะได้รับการดูแลว่าต้องได้มาตรฐาน มีปริมาณจำนวนแมตช์ที่เพียงพอต่อการเค้นศักยภาพของนักเตะออกมา นักเตะคนหนึ่งจะมีโอกาสลงสนามหลายครั้ง นอกจากได้ฝึก ได้ประสบการณ์ ได้ทักษะ ได้ทำงานเป็นทีม ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ได้หัดควบคุมอารมณ์ในสนามจริง ได้ยึดกติกาเคร่งครัด ได้เคารพคำสั่งโค้ช ได้เรียนรู้การเอาชนะแบบมีน้ำใจนักกีฬา ได้เรียนรู้การพ่ายแพ้ ยอมรับ และเรียนรู้เพื่อนำมาปรับปรุงแล้ว นี่ยังเป็นเวทีที่ดีที่สุดที่ทีมงาน Scout เข้าไปติดตามฟอร์มการเล่นของเยาวชนคนนั้นๆ ได้ และคัดเลือกเข้าสู่ฐานข้อมูลสมาคมฯ เพื่อจะถูกเรียกตัวมาคัดตัวเป็นทีมชาติรุ่นอายุนั้นๆ ต่อไป

โดยรูปแบบและจำนวนแมตช์การแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน YOUTH LEAGUE รุ่นอายุไม่เกิน 14, 16 และ 18 ปี จะแบ่งออกเป็น 4 รอบ ดังต่อไปนี้

รอบที่ 1 Regional Centralize

- แบ่งเป็น 12 โซน โซนละ 10 ทีม แข่งขัน ณ สนามกลาง (แข่งขันแบบพบกันหมด)
- ทีมที่ได้อันดับที่ 1-4 ของแต่ละโซน จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป และไปรวมกับโซนใกล้เคียง
- ทีมที่ได้อันดับที่ 5-8 จะได้สิทธิ์แข่งขันในฤดูกาลต่อไป
- ทีมที่ได้อันดับที่ 9 และ 10 จะต้องแข่งขันในรอบคัดเลือกของฤดูกาลต่อไป

รอบที่ 2 Inter Regional

- แบ่งเป็น 6 โซน โซนละ 8 ทีม แข่งขันระบบเหย้า-เยือน
- ทีมที่ได้อันดับที่ 1-2 ของแต่ละโซน จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

รอบที่ 3 Group Stage

- แบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 6 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมด
- ทีมที่ได้อันดับที่ 1-2 ของแต่ละกลุ่ม จะได้ผ่านเข้าสู่รอบต่อไป

รอบที่ 4 The Finals

- เป็นการแข่งขันรอบรองชนะเลิศ โดยผู้ชนะจะได้เข้าไปเล่นในรอบชิงชนะเลิศ ส่วนผู้แพ้ในรอบนี้ จะเล่นในรอบชิงอันดับที่ 3 และ 4

เป็นที่น่าชื่นใจยิ่งที่สถิติการเข้าร่วมจากปี 2020 ไปสู่การเข้าร่วมปี 2022/2023 เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน

• จากในปี 2020 รุ่น U12 มี 120 ทีม เข้าร่วม - ปี 2022/23 มี 122 ทีม เข้าร่วม และมีการเก็บสถิติว่า มีนักฟุตบอลได้รับประสบการณ์นี้ถึง 2,852 คน จากการเตะ 116 แมตช์

• จากในปี 2020 รุ่น U14 มี 60 ทีม เข้าร่วม - ปี 2022/23 มี 116 ทีม เข้าร่วม และมีการเก็บสถิติว่า มีนักฟุตบอลได้รับประสบการณ์นี้ถึง 2,618 คน จากการเตะ 563 แมตช์

• จากในปี 2020 รุ่น U16 มี 76 ทีม เข้าร่วม - ปี 2022/23 มี 103 ทีม เข้าร่วม และมีการเก็บสถิติว่า มีนักฟุตบอลได้รับประสบการณ์นี้ถึง 2,828 คน จากการเตะ 585 แมตช์

• จากในปี 2020 รุ่น U18 มี 60 ทีม เข้าร่วม - ปี 2022/23 มี 102 ทีม เข้าร่วม และมีการเก็บสถิติว่า มีนักฟุตบอลได้รับประสบการณ์นี้ถึง 2,578 คน จากการเตะ 580 แมตช์

นอกจากนี้ สิ่งที่ถูกริเริ่มขึ้นใหม่ใน ปี 2022/23 ได้แก่

• รุ่น U10 มี 107 ทีม เข้าร่วม และมีการเก็บสถิติว่า มีนักฟุตบอลได้รับประสบการณ์นี้ถึง 2,397 คน จากการเตะ 448 แมตช์

และมีการเปิดโอกาสให้ “ทีมฟุตบอลหญิง” เข้าร่วมกิจกรรมด้วย ได้แก่

• ทีม U12 จำนวน 12 ทีม มีนักฟุตบอลได้รับประสบการณ์นี้ถึง 140 คน
• ทีม U14 จำนวน 19 ทีม มีนักฟุตบอลได้รับประสบการณ์นี้ถึง 192 คน
• ทีม U12 จำนวน 12 ทีม มีนักฟุตบอลได้รับประสบการณ์นี้ถึง 273 คน

หลังจากการแข่งขันผ่านพ้นไป นี่คือบทสรุป

ผลการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน FA Thailand Youth League ตลอดฤดูกาล 2022/23  รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี

ชนะเลิศอันดับ 1 ทีมฮอร์นบิล จูเนียร์
รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด
รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมหนองบัว พิชญ เอฟซี

ผลการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน FA Thailand Youth League ตลอดฤดูกาล 2022/23  รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี

ชนะเลิศอันดับ 1 ทีมอัสสัมชัญ ยูไนเต็ด
รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมนนทบุรี ยูไนเต็ด ส.บุญมีฤทธิ์
รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมหนองบัว พิชญ เอฟซี

ผลการแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน FA Thailand Youth League ตลอดฤดูกาล 2022/23  รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี

ชนะเลิศอันดับ 1 ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
รองชนะเลิศอันดับ 3 ทีมชลบุรี เอฟซี
รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด 

YOUTH LEAGUE เปิดโอกาสอย่างทั่วถึงและเท่าเทียม โดยการจัดขึ้นในทั้ง 6 ภูมิภาคทั่วประเทศไทย เพื่อเยาวชนชาย – หญิง ผู้มีความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอล ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนตำบลใด ก็จะมีโอกาสเข้าแข่งขันฟุตบอล ในรายการที่ได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ นำมาซึ่งโอกาสในการพัฒนาฝีเท้าและความเข้าใจในเกมฟุตบอลอย่างถูกต้อง ซึ่งจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญของนักฟุตบอลเยาวชน และมีโอกาสแสดงฝีเท้า ทักษะ เทคนิค พรสวรรค์ ความพยายามฝึกซ้อมให้เป็นที่ประจักษ์ต่อนักฟุตบอลด้วยกัน โค้ช และที่สำคัญ...ทีม scout ที่มีหน้าที่เฟ้นหานักเตะฝีเท้าดี ถ้าความสามารถเข้าตา ก็จะได้รับการติดตามไปทุกๆ การแข่ง เพื่อเก็บข้อมูลสถิติ เพื่อเข้าลิสต์นำเสนอ อันเป็นบันไดสู่การเป็นทีมชาติอีกทางหนึ่งด้วย อีกทั้งยังเป็นการพัฒนาและสร้างโอกาสให้กับบุคลากรฟุตบอลอีกหลายด้าน เช่น โค้ช ผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่สโมสร ถือเป็นการขับเคลื่อนและพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบ

YOUTH LEAGUE คือรายการการแข่งที่ได้มาตรฐานตามหลักสูตรที่วางเอาไว้จาก FIFA มีการเก็บข้อมูลแบบลึกและแบบละเอียด สร้างเป็นฐานข้อมูลของนักเตะเยาวชนแต่ละรุ่น ไปจนถึงโค้ชและบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ข้อมูลมีการอัพเดทให้ใหม่อยู่เสมอ อีกทั้งมีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อปรับปรุง พัฒนา แก้ไข ทำให้ดีขึ้น มีการใช้เทคโนโลยีและการสื่อสารสมัยใหม่เพื่อเปิดโอกาสให้ความสามารถของเยาวชนทุกคนและการแข่งทุกนัดถูกมองเห็น ทั้งด้วยการถ่ายเป็นคลิปวิดีโอและการไลฟ์สดผ่านเครือข่ายอินเทอร์เนต 

นอกจากนี้ สมาคมฯ ยังใส่ใจเยาวชนที่รักฟุตบอลทุกคน สำหรับ Competitions ชัดเจนว่าเป็นการแข่งขันของนักเตะระดับรุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี , รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ทว่าในความเป็นจริงแล้ว นักเตะระดับโลกมากมายที่ฉายแววว่าจะเป็นสตาร์ดังด้านฟุตบอลตั้งแต่อายุไม่กี่ขวบ สมาคมฯ ไม่ได้ลืมหรือทอดทิ้งน้องๆ กลุ่มอายุต่ำกว่า 14 ปี เพราะสมาคมฯ ได้จัดกิจกรรม Grassroots Festival คือ กิจกรรมฟุตบอลขั้นพื้นฐานทั่วประเทศไทย สำหรับเยาวชนรุ่น อายุ 10 – 12 ปี ให้มีโอกาสได้เข้าถึงกิจกรรมที่สนุกสนานผ่านกีฬาฟุตบอลในรูปแบบต่างๆ โดยไม่คำนึงถึงผลแพ้ชนะอีกด้วย โดยผลการแข่งขันล่าสุด มีดังนี้

ผลการแข่งขันฟุตบอล Grassroots Festival ชาย รุ่นอายุไม่เกิน 10 ปี ประจำปี2023

ชนะเลิศอันดับ 1 ทีมเอ็มเด่น ไมเนอร์ อคาเดมี
รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมสวัสดิ์บวร อคาเดมี
รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมเอ็มบีเอฟ อัมพวา เอฟซี

ผลการแข่งขันฟุตบอล Grassroots Festival ชาย รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ประจำปี2023

ชนะเลิศอันดับ 1 ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมเอส ที บี อคาเดมี
รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมพัทยา ดอลฟินส์ จูเนียร์

ผลการแข่งขันฟุตบอล Grassroots Festival หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 12 ปี ประจำปี2023

ชนะเลิศอันดับ 1 ทีมกรุงเทพฯ
รองชนะเลิศอันดับ 1 ทีมบ้านบึง เอฟซี อคาเดมี
รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมใจฟ้าหญิง

ผลการแข่งขันฟุตบอล Grassroots Festival หญิง รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี ประจำปี2023

ชนะเลิศอันดับ 1 ทีม 1 โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี
รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมโรงเรียนกีฬาศรีสะเกษ
รองชนะเลิศอันดับ 2 ทีมโรงเรียนกีฬาจังหวัดลำปาง

แต่ประการสำคัญที่สุด เสาหลัก Competitions จะไม่ส่งผลอะไรเลย หากไม่ทำอย่างต่อเนื่อง ในระยะเวลาที่ยาวนานพอสำหรับการสร้างเยาวชนวัยไม่กี่ขวบ เติบโตไปสู่ทีมชาติ เพราะถ้าไม่มีการแข่ง ก็จะไร้ซึ่งการเก็บสถิติ ฐานข้อมูล จับตาคัดสรรเด็กมีแวว คัดเลือกเพื่อสนับสนุนให้ติดทีมชาติแต่ละรุ่นไปเรื่อยๆ ดังนั้นจึงสรุปได้ว่า ทั้ง Competitions หรือแม้กระทั่ง “Grow Together” ควรเป็นหลักสูตรถาวร หรือกลายเป็นระบบของสมาคมฯ ที่ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้การดูแลของใคร เพื่อการพัฒนายั่งยืนของบอลไทยอย่างแท้จริง