30 September 2025
10 ชั่วโมงที่ผ่านมา
สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 6 ประจำฤดูกาล 2568/69
เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 6 ประจำฤดูกาล 2568/69 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน
พิจารณาการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน
1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีล ไฟว์ ลีกสอง วันที่ 21 กันยายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรแพร่ ยูไนเต็ด พบ สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด (สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์)
- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 19 ผู้เล่นหมายเลข 6 นายปาณเดชา เงินประเสริฐ สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด กระโดดเข้าสไลด์เพื่อแย่งชิงบอลใส่ผู้เล่นหมายเลข 19 นายอาทิตย์ ภีระบรรณ สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด ผู้ตัดสินได้ทำการเป่าฟาลว์ และคาดโทษ (ใบเหลือง) แก่ผู้เล่นหมายเลข 6 นายปาณเดชา เงินประเสริฐ สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นหมายเลข 6 นายปาณเดชา เงินประเสริฐ สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ถึงบอลก่อนอย่างชัดเจน และไม่ได้มีเจตนาหรือการเล่นที่เข้าข่ายอันตรายแต่อย่างใด
- ผลพิจารณาโทษ
นายวุฒิพงษ์ เกตุคำ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 6 นายปาณเดชา เงินประเสริฐ สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้วิ่งเข้าหาลูกบอลด้วยลักษณะการกระโดดเข้าใส่ เหยียดขาตรง เปิดหน้าเท้าและหงายปุ่มสตั๊ดเข้าหาลูกบอล แม้ผู้เล่นจะสัมผัสลูกบอลก่อน แต่ก็มีการสัมผัสถูกตัวผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามในจังหวะต่อมา ซึ่งถือว่าเป็นการกระทำผิดกติกาในลักษณะของการกระโดดเข้าใส่คู่ต่อสู้ (Jump at Opponent) อันเป็นการเล่นที่ขาดการไตร่ตรองหรือยั้งคิด (Reckless) และอาจก่อให้เกิดอันตรายหรือบาดเจ็บแก่คู่แข่งขันได้ ผู้ตัดสินได้เป่าฟาวล์และคาดโทษ(ใบเหลือง) กับผู้เล่นคนดังกล่าว ถือว่าตัดสินถูกต้อง และผู้ตัดสินวิดีทัศน์ (VAR) ได้ดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวในลักษณะการตรวจสอบแบบเงียบ (Silent Check) และมีความเห็นสอดคล้องกับคำตัดสินของผู้ตัดสิน
- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 24 ผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. FELIPE DA SILVA AMORIM สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ได้บอลหลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ ผู้รักษาประตูหมายเลข 93 นายเกียรติพล อุดม สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด วิ่งออกมาล้มตัวเพื่อพยายามสกัดกั้นจังหวะดังกล่าว ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นสามารถแตะบอลอ้อมตัวผู้รักษาประตูไปได้ ก่อนที่ผู้รักษาประตูจะกระโดดจะใช้เท้าขวาสไลด์เข้าสกัดไม่โดนบอล และมีการขัดขวางการเล่น แต่ผู้ตัดสินกลับไม่เป่าฟาวล์ และ VAR ไม่ได้มีการเรียกผู้ตัดสินมาทำการตรวจสอบ ทำให้สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ไม่ได้จุดโทษ
- ผลพิจารณาโทษ
นายวุฒิพงษ์ เกตุคำ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้รักษาประตูหมายเลข 93 นายเกียรติพล อุดม สโมสรแพร่ ยูไนเต็ด วิ่งเข้ามาแย่งชิงลูกบอลโดยใช้ปลายเท้าซ้ายจิกลงพื้นและย่อตัวลง จากนั้นได้ใช้เท้าขวาพยายามเหวี่ยงเตะจากด้านข้างไปที่ลูกบอล ไม่ใช่การกระโดดเหยียดเท้าใส่ฝ่ายตรงข้าม และจังหวะสุดท้ายมีมือผู้รักษาประตูสัมผัสกับลูกบอลเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ในจังหวะการเตะบอลไม่ปรากฏการสัมผัสกับผู้เล่นฝ่ายรุก ซึ่งผู้เล่นฝ่ายรุกเข้าถึงบอลช้ากว่าเล็กน้อยและได้กระโดดหลบเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะ ถือเป็นลักษณะการเล่นฟุตบอลปกติ (Football Understanding) ไม่เป็นการเล่นที่ผิดกติกา ผู้ตัดสินจึงไม่เป่าฟาวล์ ถือว่าตัดสินถูกต้อง และผู้ตัดสินวิดีทัศน์ (VAR) ได้ดำเนินการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าวในลักษณะการตรวจสอบแบบเงียบ (Silent Check) และมีความเห็นสอดคล้องกับคำตัดสินของผู้ตัดสินในสนาม
2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 21 กันยายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรเชียงราย ทีเอสซี เอฟซี พบ สโมสรชาติตระการ ซิตี้ (สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์)
- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 50 จังหวะที่มีการปะทะบริเวณกลางสนามระหว่างผู้เล่นหมายเลข 60 Mr. CHIJINDU SUNDAY EDMUND สโมสรชาติตระการ ซิตี้ กับผู้เล่นหมายเลข 5 นายธนาดล ดําพลงาม สโมสรเชียงราย ทีเอสซี เอฟซี ผู้ตัดสินได้ทำการคาดโทษ (ใบเหลือง) แก่ผู้เล่นทั้งสองคน ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นหมายเลข 60 Mr. CHIJINDU SUNDAY EDMUND สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ไม่ได้มีการกระทำผิด จึงไม่ควรถูกคาดโทษ (ใบเหลือง) ขณะที่ผู้เล่นหมายเลข 5 นายธนาดล ดําพลงาม สโมสรเชียงราย ทีเอสซี เอฟซี ที่ใช้มือบีบและล็อกบริเวณลำคอคู่ต่อสู้นั้น เข้าข่ายเป็นการเล่นนอกเกม และมีเจตนาทำร้ายร่างกาย ผู้ตัดสินควรลงโทษด้วยการไล่ออก (ใบแดง)
- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษนายธนะวิทย์ พรมเพ็ชร ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 5 นายธนาดล ดําพลงาม สโมสรเชียงราย ทีเอสซี เอฟซี มีการผลักและวางมือบริเวณลำคอใส่ผู้เล่นหมายเลข 60 Mr. CHIJINDU SUNDAY EDMUND สโมสรชาติตระการ ซิตี้ จริง ซึ่งเป็นการกระทำนอกการเล่น ถือเป็นการเจตนาทำร้ายคู่แข่งขัน เป็นความผิดที่ต้องถูกไล่ออก (ใบแดง) ในลักษณะของการประพฤติผิดอย่างร้ายแรง (Violent Conduct) แต่ผู้ตัดสินทำการคาดโทษ (ใบเหลือง) กับผู้เล่นคนดังกล่าว ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง
2) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 5 นายธนาดล ดําพลงาม สโมสรเชียงราย ทีเอสซี เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับ ข้อ 1.1.2 (1) ใบแดง (Violent Conduct) ถูกพักการแข่งขัน 2 นัด และปรับเงิน 20,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 5,000 บาท
- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 83 ผู้เล่นหมายเลข 54 นายพัสกร เฟื่องฟุ้ง สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ได้ทำการสไลด์ตัวเข้าสกัดใส่ผู้เล่นหมายเลข 99 นายธนวิชญ์ คําจ้อย สโมสรเชียงราย ทีเอสซี เอฟซี บริเวณหน้ากรอบเขตโทษจนล้มลง ผู้ตัดสินได้ทำการเป่าฟาล์ว และไล่ออก (ใบแดง) แก่ผู้เล่นหมายเลข 54 นายพัสกร เฟื่องฟุ้ง สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า เป็นการทำฟาวล์ระดับเบา ไม่เข้าข่ายการเล่นรุนแรง หรือปฏิเสธโอกาสทำประตูโดยเจตนา ผู้เล่นหมายเลข 54 นายพัสกร เฟื่องฟุ้ง สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ควรได้รับโทษเพียงใบเหลือง
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายธนะวิทย์ พรมเพ็ชร ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากจังหวะที่ผู้เล่นฝ่ายรุกถูกทำฟาวล์นั้น บอลถูกเตะออกไปไกลตัวและกระดอนเข้าหาผู้รักษาประตูฝ่ายรับ ซึ่งสามารถออกมาควบคุมบอลไว้ได้ทันที อีกทั้งผู้เล่นกองหลังอีก 2 คน ที่วิ่งตามมายังอยู่ในตำแหน่งที่สามารถแย่งบอลได้ (Active Players) จึงถือว่าไม่ครบองค์ประกอบของการป้องกันโอกาสการทำประตูอย่างชัดแจ้ง (DOGSO) ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินให้ใบแดงในกรณีนี้ จึงไม่ถูกต้อง เหตุการณ์ดังกล่าวควรพิจารณาเป็นเพียงการฟาวล์ที่เข้าลักษณะการตัดโอกาสการทำเกมรุก (SPA) และควรลงโทษด้วยการให้ใบเหลืองแก่ผู้เล่นฝ่ายรับแทน
3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 21 กันยายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี พบ สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด (สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์)
- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 26 ทางสโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด มองว่า ผู้รักษาประตูหมายเลข 48 นายธีรยุทธ ลอยพรหม สโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี ใช้มือรับบอลในกรอบเขตโทษจากการส่งบอลคืนของผู้เล่นหมายเลข 6 Mr. GAFAITI ADEL MOHAMED NOURREDINE สโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์ว ทำให้สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ไม่ได้เตะโทษโดยอ้อม (Indirect free kick)
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายสงค์ มลทา ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (1) ตักเตือน เนื่องจากลูกบอลไม่ได้มีการเปลี่ยนทิศทางจากการสัมผัสของผู้เล่นฝ่ายรุก ดังนั้น การเล่นบอลในจังหวะดังกล่าวถือเป็นการเจตนาเตะบอลด้วยเท้าส่งคืนให้ผู้รักษาประตูอย่างชัดเจน เมื่อผู้รักษาประตูใช้มือเล่นบอลหลังจากที่ผู้เล่นฝ่ายเดียวกันเจตนาเตะส่งคืน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกติกา ควรให้ฝ่ายตรงข้ามได้เตะโทษโดยอ้อม (Indirect free kick) จากจุดที่ผู้รักษาประตูสัมผัสบอลด้วยมือ
- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 79 ทางสโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด มองว่า ผู้รักษาประตูหมายเลข 48 นายธีรยุทธ ลอยพรหม สโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี ใช้มือรับบอลในกรอบเขตโทษจากการส่งบอลคืนของผู้เล่นหมายเลข 20 พงศธร ทองก่อ สโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์ว ทำให้สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ไม่ได้เตะโทษโดยอ้อม (Indirect free kick)
- ผลพิจารณาโทษ
ยกคำร้อง เนื่องจากจังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 20 นายพงศธร ทองก่อ สโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี ยกเท้าเพื่อเล่นบอลนั้น ลำตัวผู้เล่นบังมุมกล้อง ทำให้ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจนว่าลูกบอลสัมผัสเท้าหรือหน้าแข้ง จากคลิปภาพไม่ปรากฏความชัดเจนเพียงพอในการยืนยันจุดสัมผัสของลูกบอล หากตัดสินชี้ขาดไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง โดยปราศจากหลักฐานที่ชัดแจ้ง อาจส่งผลให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้รับความเป็นธรรมจากคำวินิจฉัย
พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล
4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ บีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 28 กันยายน 2568คู่ระหว่างสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี พบ สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด
- เหตุการณ์
ตามที่ปรากฎในสื่อออนไลน์พบเห็นคลิปเหตุการณ์ในช่วงจบเกมบริเวณฝั่งอัฒจันทร์ทีมเยือนสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด มีกลุ่มกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ยืนเกาะรั้วกั้นสนามอยู่บนอัฒจันทร์ และมีเจ้าหน้าที่ทีมงานรักษาความปลอดภัยของสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ยืนอยู่ด้านล่างอัฒจันทร์ หันหน้าขึ้นมองไปยังกลุ่มกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่อยู่บนอัฒจันทร์ ที่แสดงความไม่พอใจการดูแลรักษาความปลอดภัยของทีมการ์ดบริเวณดังกล่าว ทำให้ทั้งสองฝ่ายพยายามช่วยกันห้ามปราม และขอโทษทำความเข้าใจกัน แต่ก็ยังไม่เป็นผลจนเกิดการปะทะคารมกัน โดยมีกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด รายหนึ่งได้ตะโกนใส่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยคนดังกล่าวที่ได้ยิน ได้ตะโกนด่ากองเชียร์กลับด้วยถ้อยคำหยาบคาย และมีลักษณะท่าทางไม่พอใจจะเอาเรื่องกลุ่มกองเชียร์ ทำให้สถานการณ์เริ่มบานปลายมากขึ้น กองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ที่ได้ยินต่างพากันเข้ามาชี้หน้า ชูนิ้วกลาง และตะโกนด่าเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวบริเวณรั้วกั้นอัฒจันทร์ ด้วยถ้อยคำหยาบคายเป็นระยะ จนกระทั้งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีมของสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ต้องเข้ามาขอความร่วมมือให้กองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ใจเย็นลง และผลักดันเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวออกจากพื้นที่ ก่อนที่เหตุการณ์จะสงบลงในที่สุด
- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษกองเชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 ปรับเงิน 10,000 บาท
2) ลงโทษนายสิทธิชัย บุตรสะสม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.6 ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท
3) ลงโทษสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มีจำนวนเจ้าหน้าที่ รปภ. ไม่ครบตามระเบียบที่กำหนด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (3) ปรับเงิน 10,000 บาท
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 2.6 กรณีด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และจะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 40,000 บาท
หากเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ให้พิจารณาเพิ่มโทษแต่ทั้งนี้โทษรวมที่จะได้รับต้องไม่เกินสองเท่า
ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท
หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท
หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด
ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน
(3) หากองค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้า มีข้อบกพร่องในระบบงานรักษาความปลอดภัย ที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน จะถูกลงโทษปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท และ/หรือ ห้ามจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัดเป็นอย่างน้อย จนกว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นให้ผ่านการรับรองจากฝ่ายจัดการแข่งขัน
5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีล ไฟว์ ลีกสอง วันที่ 28 กันยายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด พบ สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด
- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 78 กองเชียรสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด บนอัฒจันทร์ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก ไม่พอใจการถ่วงเวลาของผู้เล่นสโมสรนครศรี ยูไนเต็ด จึงพร้อมใจกันตะโกนด้วยถ้อยคำหยาบคาย เป็นจำนวน 2 ครั้ง โดยมีผู้ประเมินผู้ตัดสินที่นั่งในที่เดียวกันกับผู้ควคุมการแข่งขันได้ยินเช่นกัน
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษกองเชียร์สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 วรรคสอง ปรับเงิน 30,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 20,000 บาท
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท
หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท
หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด
6. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 27 กันยายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรพีที สตูล เอฟซี พบ สโมสรนรา ยูไนเต็ด
- เหตุการณ์
นาทีที่ 71 มีสุนัข 1 ตัววิ่งเข้ามาในสนามจากฝั่งสกอร์บอร์ด (ด้านทิศเหนือ) ขณะที่สโมสรพีที สตูล เอฟซีกำลังจะเขี่ยบอลเริ่มการเล่นใหม่ หลังจากเสียประตูให้สโมสรนรายูไนเต็ด เจ้าหน้าที่ช่วยกันไล่ออกจากสนามไปทางด้านทิศใต้โดยใช้เวลาประมาณ 1 นาที ผู้ตัดสินจึงให้สัญญาณเริ่มดำเนินการแข่งขันต่อไปได้ และนาทีที่ 75 สุนัขตัวเดิมวิ่งเข้ามาในสนามอีกครั้ง (ทางทิศใต้) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ตัดสินเป่าหยุดเกมให้เป็นลูกฟรีคิกของสโมสรพีที สตูล เอฟซี (ในแดนของสโมสรนรา ยูไนเต็ด) เจ้าหน้าที่ช่วยกันไล่สุนัขออกจากสนามทางฝั่งทิศใต้ที่ติดกับทางอัฒจันทร์หลัก ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1 นาที ผู้ตัดสินจึงให้สัญญาณเพื่อดำเนินการแข่งขันต่อไปได้
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษสโมสรพีที สตูล เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.1.6 ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 5.1.6 ปล่อยปละละเลยให้สัตว์เลี้ยงหรือสัตว์อื่นใด เข้าไปในสนามแข่งขัน หรือกระทำด้วยประการใด ๆ หรือปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการรบกวนการแข่งขัน จนมีผลกระทบต่อการแข่งขัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท
7. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการช้าง เอฟเอ คัพ (รอบคัดเลือก) วันที่ 24 กันยายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรสมุย ยูไนเต็ด พบ สโมสรนครปฐม ซิตี้
- เหตุการณ์
ตามที่ปรากฎภาพข่าวผ่านสื่อออนไลน์ว่านักกีฬาฟุตบอลสโมสรนครปฐม ซิตี้ ทีมเยือน ที่มีรายชื่อลงสนามแข่งขัน จำนวน 16 คน มีการสวมใส่ชุดแข่งขันที่ติดตราสัญลักษณ์ผู้สนับสนุน เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ซึ่งฝ่ายจัดการแข่งขันได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่า ตราสัญลักษณ์ผู้สนับสนุนบนหน้าอกเสื้อของนักกีฬาฟุตบอลสโมสรนครปฐม ซิตี้ เป็นเครือข่ายเว็บการพนันที่ผิดกฎหมาย การใส่ชุดดังกล่าวลงทำการแข่งขันนั้น เข้าข่ายความผิดของระเบียบข้อบังคับการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ข้อ 4.8 องค์กรสมาชิกมีสิทธิในการดำเนินการด้านสิทธิประโยชน์ของตัวเองแต่จะต้องไม่ขัดกับกฎหมายภายในประเทศ และศีลธรรมอันดี และ/หรือ สิทธิประโยชน์โดยรวมของสมาคม ซึ่งการสวมใส่ชุดของนักกีฬาฟุตบอลของสโมสรนครปฐม ซิตี้ เป็นการสวมใส่ชุดแข่งขันที่ไม่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับ เป็นการสวมใส่ชุดที่มีตราสัญลักษณ์ผู้สนับสนุนทีมที่ขัดต่อกฎหมาย ลงทำการแข่งขันในรายการของสมาคม โดยไม่ได้แจ้งและขออนุญาตต่อฝ่ายจัดการแข่งขันให้ทราบล่วงหน้า อันเป็นการกระทำที่ส่งผลให้สมาคมได้รับความเสียหาย ทั้งในด้านภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือ ก่อให้เกิดผลเสียต่อการจัดการแข่งขันและต่อวงการฟุตบอลโดยรวม
- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษนักกีฬาฟุตบอลสโมสรนครปฐม ซิตี้ ตามรายชื่อผู้ลงสนามแข่งขัน จำนวน 16 คน แต่งกายไม่เป็นไปตามระเบียบฯ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.4 ปรับเงินคนละ 10,000 บาท รวมเป็นเงิน 160,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการช้าง เอฟเอ คัพ (รอบคัดเลือก) จึงลงโทษปรับหนึ่งในสาม ปรับเงิน 53,333 บาท
2) ลงโทษสโมสรนครปฐม ซิตี้ จัดชุดแข่งขันไม่เป็นไปตามระเบียบฯ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.1 ปรับเงิน 20,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการช้าง เอฟเอ คัพ (รอบคัดเลือก) จึงลงโทษปรับหนึ่งในสาม ปรับเงิน 6,666 บาท
3) เสนอให้สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ พิจารณาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อสโมสรนครปฐม ซิตี้ และ/หรือผู้ที่เกี่ยวข้อง
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 1.4 แต่งกายไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน
ครั้งแรกปรับ 10,000 บาท
ครั้งต่อไป สำหรับนักกีฬาฟุตบอลคนเดิม ปรับครั้งละ 20,000 บาท
ข้อ 3.1 ทีมใดจัดชุดสำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีม ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน จะถูกปรับเงินครั้งละตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท
เว้นแต่กรณีมีเหตุสุดวิสัยตามสมควรเกิดขึ้นในวันแข่งขัน ผู้ประเมินผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่คู่นั้น ๆ หรือผู้ควบคุมการแข่งขัน อาจใช้ดุลพินิจให้เปลี่ยนแปลงตามสมควรเพื่อให้การแข่งขันดำเนินต่อไปได้ แต่หากไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ต้องรับผิด และแต่ละครั้งต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากฝ่ายสิทธิประโยชน์เรียกร้องมา จากกรณีที่ไม่มีเครื่องหมายของผู้สนับสนุนการแข่งขันติดที่แขนเสื้อด้านขวา
Events
30 September 2025
ครั้งแรกในประวัติศาสตร์! สมาคมฯ จับมือ โคคา-โคล่า จัดแข่งลีกเยาวชนU17 ต่อเนื่อง 3 ปี-สานเป้าหมายบอลโลกU17
Competitions
30 September 2025
AIS PLAY เตรียมถ่ายทอดสด ฟุตบอล "เมืองไทย CUP" ฤดูกาล 2025/26 เดินหน้ายกระดับลูกหนังไทย เชื่อมทุกแมตช์สู่แฟนบอล
National Team Women's
29 September 2025
OFFICIAL! ประกาศ : รายชื่อ 30 แข้ง ฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย U17 เก็บตัวฝึกซ้อม เตรียมลุยศึกชิงแชมป์เอเชีย 2026 รอบคัดเลือก