สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 21 ประจำฤดูกาล 2568/69

เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 21 ประจำฤดูกาล 2568/69 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 13 ธันวาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรอุทัยธานี เอฟซี พบ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 83 หลังจากที่ผู้ตัดสินได้เช็ค VAR และให้ลูกจุดโทษกับสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี กองเชียร์รอบสนามโดยเฉพาะกองเชียร์ที่นั่งบนอัฒจันทร์หลังประตูฝั่งซ้ายของอัฒจันทร์หลัก ซึ่งเป็นฝั่งที่สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ได้ลูกจุดโทษ (จากการสังเกตเป็นกองเชียร์สโมสรอุทัยธานี เอฟซี) ได้ตะโกนพร้อมกันเป็นจังหวะเสียงดังชัดเจนด้วยคำหยาบคายหลายครั้ง จนถึงประมาณนาทีที่ 86 เสียงตะโกนพร้อมกันนั้นก็ได้สงบลง สาเหตุเนื่องจากกองเชียร์สโมสรอุทัยธานี เอฟซี ไม่พอใจที่ผู้ตัดสินให้ลูกจุดโทษกับสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ผู้เห็นเหตุการณ์และเป็นพยาน ได้แก่ ทีมงานผู้ตัดสิน โดยเฉพาะผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษกองเชียร์สโมสรอุทัยธานี เอฟซี ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคายโดยพร้อมเพรียงกัน  มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 วรรคสอง ปรับเงิน 20,000 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท 

หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท  

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 13 ธันวาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด พบ สโมสรลำพูน วอริเออร์ 

- เหตุการณ์
นาทีที่ 85 ขณะที่บอลอยู่นอกการเล่นกองเชียร์สโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ฝั่งอัฒจันทร์หลัก ได้สาดน้ำแอลกอฮอล์/เบียร์ ใส่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ผู้ตัดสินในสนามจึงหยุดการเล่น จนเหตุการณ์ปกติและเริ่มเล่นต่อไป 

สาเหตุเนื่องจากนาทีที่ 85 บอลอยู่นอกการเล่น มีเหตุเกิดขึ้นบริเวณเส้นข้างสนาม ห่างจากอัฒจันทร์หลักบริเวณที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ทำหน้าที่อยู่บริเวณนั้นประมาณ 4 เมตร ผู้ตัดสินในสนามเดินเข้าไปใกล้ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 พูดคุยกัน และเริ่มการแข่งขันในนาทีต่อมา หลังจบการแข่งขันได้รับรายงานจากผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวทราบว่า มีกองเชียร์บริเวณนั้นสาดน้ำแอลกอฮอล์/เบียร์ ใส่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ถูกบริเวณลำตัวและศีรษะ ผู้ตัดสินจึงเข้ามาเคลียร์เหตุการณ์ดังกล่าวให้เป็นปกติประมาณ 1 นาที และเริ่มเล่นต่อไปจนจบการแข่งขัน

อนึ่งหลังจบการแข่งขันได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ General Coordinator ว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่ รปภ. ที่รักษาการณ์ในบริเวณนั้น ได้เข้าช่วยระงับเหตุและให้ผู้ก่อเหตุออกจากบริเวณนั้นทันที นายสมชาย โกแสนตอ ซึ่งทำหน้าที่ General Coordinator แจ้งในที่ประชุมว่า มีตำรวจ 10 นาย และ รปภ. 62 คน ดูแลอำนวยความสะดวกตลอดการแข่งขัน

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษกองเชียร์สโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่การแข่งขัน  มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.4 ปรับเงิน 30,000 บาท
2) ลงโทษสโมสรสิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด จำนวนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่เป็นไปตามระเบียบ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (3) ปรับเงิน 10,000 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 4.4 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือ องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวต้องรับโทษ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท

ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน
(3) หากองค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้า มีข้อบกพร่องในระบบงานรักษาความปลอดภัย ที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน จะถูกลงโทษปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท และ/หรือ ห้ามจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัดเป็นอย่างน้อย จนกว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นให้ผ่านการรับรองจากฝ่ายจัดการแข่งขัน

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 14 ธันวาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด

- เหตุการณ์
เหตุการณ์ชุลมุนก่อนเริ่มการแข่งขัน บริเวณพื้นที่ว่างด้านหลังอัฒจันทร์ทิศเหนือของกองเชียร์ทีมเยือน และต่อเนื่องไปถึงพื้นที่อัฒจันทร์ทิศเหนือของกองเชียร์ทีมเหย้า ซึ่งมีกองเชียร์แบ่งออกเป็นสองกลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มชายสวมชุดสีน้ำเงิน เป็นกองเชียร์ของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และกลุ่มชายสวมชุดสีดำ มีธงเชียร์ เป็นกองเชียร์ของสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด กองเชียร์ทั้งสองกลุ่มได้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทกันในช่วงระยะเวลาหนึ่ง โดยมีพฤติกรรมขว้างปาวัสดุ ประกอบด้วย ถังขยะเปล่าสีขาว สีเขียว และแก้วน้ำสาดน้ำ ปาใส่กันกลับไปกลับมา เหตุการณ์ได้มีความรุนแรงขึ้นเข้าสู่การทะเลาะกัน เมื่อกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายเริ่มเดินเข้าปะชิดกัน และมีการใช้กำลังชกกัน บางส่วนใช้เท้ากระโดดถีบกัน มีการตอบโต้ด้วยการใช้กำลังกันทั้งสองฝ่าย โดยไม่สามารถระบุได้ว่าฝ่ายใดเป็นฝ่ายเริ่มก่อน จนกระทั่งในที่สุดฝ่ายรักษาความปลอดภัยมีการเสริมกำลังเข้ามาควบคุมสถานการณ์จนเหตุการณ์สงบตามรายงานของผู้ควบคุมการแข่งขัน 

สำหรับกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บมีจำนวนรวม 4 คน ได้มีการนำส่งโรงพยาบาลจำนวน 3 คน เป็นกองเชียร์ของสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด 2 คน และกองเชียร์ของสโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด 1 คน ส่วนอีก 1 คน บาดเจ็บเล็กน้อยไม่ได้ไปโรงพยาบาล

- ผลพิจารณาโทษ 
ลงโทษกองเชียร์สโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และกองชียร์สโมสรเมืองทอง ยูไนเต็ด ก่อการทะเลาะวิวาทในสถานที่จัดการแข่งขัน กระทำการตอบโต้กันจนเหตุการณ์บานปลายออกไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในสถานที่จัดการแข่งขัน  มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.10 วรรคสาม ปรับเงินสโมสรละ 50,000 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 4.10 กองเชียร์ก่อการทะเลาะวิวาท ในสถานที่จัดการแข่งขัน องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่ก่อเหตุ จะถูกปรับเงิน 100,000 บาท 

หากการทะเลาะวิวาทที่เกิดขึ้น ทำให้การแข่งขันนัดนั้นต้องยุติลง องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่ก่อเหตุ จะต้องรับผิดชอบต่อค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สิน ตลอดจนค่าเสียหายตามที่ฝ่ายสิทธิประโยชน์เรียกร้อง และให้ปรับทีมนั้นเป็นแพ้ 

ส่วนกองเชียร์คู่กรณีที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุก่อน แต่ได้กระทำการตอบโต้จนเหตุการณ์บานปลายออกไป ให้มีโทษถูกปรับเงิน 50,000 บาท

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีวายดี ซีล ไฟว์ ลีกสอง วันที่ 13 ธันวาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรชัยนาท ฮอร์นบิล พบ สโมสรตราด เอฟซี 

- เหตุการณ์
ตามเวลา Count down ในเวลา 17.55 น. ได้เข้าตรวจสอบ AD Card และอุปกรณ์นักฟุตบอลในห้องพักนักกีฬาทีมเยือน (สโมสรตราด เอฟซี) ปรากฏว่า นักฟุตบอลหมายเลข 96 นายชุติพนธ์ ทองแท้ สโมสรตราด เอฟซี ไม่มี AD  Card มาแสดง ได้สอบถามนายธชรัฐ ลือชา ผู้จัดการทั่วไปของสโมสรตราด เอฟซี แจ้งว่า ได้ลืมไว้ที่สำนักงานสโมสร ที่จังหวัดตราด ไม่ได้นำ AD Card มาด้วย มีเพียงภาพถ่าย AD Card ในมือถือ เพื่อแสดงตัวตนของนักฟุตบอลคนดังกล่าว

- ผลพิจารณาโทษ 
ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 96 นายชุติพนธ์ ทองแท้ สโมสรตราด เอฟซี ไม่พกพา AD Card ติดตัวมาแสดงในวันแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.2 ปรับเงิน 1,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีวายดี ซีล ไฟว์ ลีกสอง จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 666 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 1.2 กรณีไม่พกพา AD Card ติดตัวมาแสดงในวันแข่งขัน ปรับเงินคนละ 1,000 บาท      

5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีจีซี เมืองไทยประกันภัย คัพ วันที่ 13 ธันวาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรอุบล ครัวนภัส เอฟซี  พบ สโมสรร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด

- เหตุการณ์
สีเสื้อผู้เล่นทั้งสองทีม มีสีคล้ายกัน จึงได้สอบถามผู้ประเมินผู้ตัดสิน และผู้ตัดสิน ว่าสามารถทำการแข่งขันได้หรือไม่ ทางผู้ตัดสินแจ้งว่าไม่สามารถทำหน้าที่ได้เนื่องจากสีเสื้อคล้ายกัน สโมสรอุบล ครัวนภัส เอฟซี เสื้อทีมเหย้า (สีชมพู) กางเกง (สีชมพู) ถุงเท้า (สีชมพู) โดยผู้ควบคุมการแข่งขันได้สอบถามถึงชุดสำรองในที่ประชุมว่าสโมสรอุบล ครัวนภัส เอฟซี ได้เตรียมชุดสำรองไว้หรือไม่ ได้รับคำตอบว่า ไม่ได้เตรียมมา มีแค่ชุดแข่งเหย้าชุดเดียว  ส่วนสโมสรร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด ใส่เสื้อ (สีขาว) กางเกง (สีขาว) ถุงเท้า (สีขาว) ซึ่งเป็นสีชุดทีมเหย้า แต่นัดนี้เป็นทีมเยือนและไม่ได้นำชุดมาเพิ่มเติม จึงได้แจ้งทางแมตเซ็นเตอร์ให้ทราบ เมื่อได้ข้อสรุปคือ ให้สโมสรร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด เปลี่ยนเป็นกางเกงที่วอร์ม แต่ไม่มีหมายเลข ซึ่งทางแมตเซ็นเตอร์ได้รับทราบ และให้ทำการแข่งขันได้ และได้ทำการตรวจเอดีการ์ด เวลา 16.05 น. เริ่มทำการอบอุ่นร่างกายเวลา 16.15 น. เสร็จการอบอุ่นร่างกาย เวลา 16.40 น. และเริ่มการแข่งขัน ตามปกติ เวลา 17.01 น.

- ผลพิจารณาโทษ 
ลงโทษสโมสรอุบล ครัวนภัส เอฟซี และสโมสรร้อยเอ็ด พีบี ยูไนเต็ด ไม่จัดชุดสำรองสำหรับนักกีฬาให้เป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันในแต่ละรายการแข่งขัน  มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.1  ปรับเงินสโมสรละ 10,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีจีซี เมืองไทยประกันภัย คัพ จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงินสโมสรละ 2,500 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 3.1 ทีมใดจัดชุดสำหรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ทีม ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน จะถูกปรับเงินครั้งละตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท 

เว้นแต่กรณีมีเหตุสุดวิสัยตามสมควรเกิดขึ้นในวันแข่งขัน ผู้ประเมินผู้ตัดสินที่ทำหน้าที่คู่นั้น ๆ หรือผู้ควบคุมการแข่งขัน อาจใช้ดุลพินิจให้เปลี่ยนแปลงตามสมควรเพื่อให้การแข่งขันดำเนินต่อไปได้ แต่หากไม่ใช่เหตุสุดวิสัย ต้องรับผิด และแต่ละครั้งต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากฝ่ายสิทธิประโยชน์เรียกร้องมา จากกรณีที่ไม่มีเครื่องหมายของผู้สนับสนุนการแข่งขันติดที่แขนเสื้อด้านขวา     

6. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการบีจีซี เมืองไทยประกันภัย คัพ วันที่ 13 ธันวาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรบูรพา ยูไนเต็ด พบ สโมสรบ้านค่าย ยูไนเต็ด 

- เหตุการณ์ 
เริ่มการแข่งขันช้ากว่าเวลาที่กำหนด 2 นาที เนื่องจากผู้เล่นสโมสรบ้านค่าย ยูไนเต็ด ออกจากห้องพักนักกีฬาล่าช้ากว่าเวลาที่กำหนดตามขั้นตอนการนับเวลาถอยหลัง OFFICIAL COUNTDOWN โดยผู้ควบคุมการแข่งขันได้ติดตามเป็นระยะ เป็นเหตุให้เริ่มการแข่งขันช้า 2 นาที

- ผลพิจารณาโทษ 
ลงโทษสโมสรบ้านค่าย ยูไนเต็ด ไม่ทำตามกำหนดการ (OFFICIAL COUNTDOWN)มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 ความผิดครั้งแรก จึงลงโทษเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรว่าให้สโมสรปฏิบัติตามกำหนดการขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลังอย่างเคร่งครัด และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)    

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 3.6 ต้องทำตามกำหนดการ ขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) ภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะเป็นความผิด ไม่ว่าจะเริ่มการแข่งขันในเวลาได้หรือไม่ก็ตาม 

ครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)
ครั้งต่อไป จะถูกปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)