สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตลอดระยะเวลาเกือบ 8 ปี ภายใต้การบริหารงานของ พล.ต.อ. ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฯ กับการเดินหน้าวางรากฐานให้กับฟุตบอลไทย เพื่อต่อยอดสู่การพัฒนาที่ต่อเนื่องและยั่งยืน หลังจากเห็นว่าตลอดระยะเวลากว่า 100 ปีที่ผ่านมา ฟุตบอลไทยยังขาดโครงสร้างพื้นฐานในการที่จะทำให้ฟุตบอลไทยเดินหน้าพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่องจากรุ่นสู่รุ่น

เมื่อเห็นจุดที่ต้องสร้างเพื่อการต่อยอดการพัฒนาวงการฟุตบอลไทย จึงเกิดนโยบาย 4 ด้าน เพื่ออนาคตฟุตบอลไทย ดังนี้ 1.การพัฒนาโครงสร้างองค์กร 2.การยกระดับและพัฒนาฟุตบอลทีมชาติไทยทุกชุด 3.การพัฒนาฟุตบอลลีกอาชีพ และ 4.การพัฒนาด้านเทคนิค​ ภายใต้แผนแม่บทพัฒนาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2559 พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ได้รับความไว้วางใจจาก สโมสรสมาชิก เลือกตั้งให้เข้ามาทำหน้าที่นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการเข้ามาบริหารงานกิจการฟุตบอลไทย

การพัฒนาโครงสร้างองค์กร  

ภารกิจ​แรกเริ่มจัดระเบียบองค์กรใหม่ นำบุคลากรที่มีประสบการณ์และความสามารถเข้ามาทำหน้าที่ ในแต่ละฝ่ายอย่างชัดเจนตามโครงสร้างที่เอเอฟซี และฟีฟ่ากำหนด พร้อมกับนำเทคโนโลยีการจัดการด้านต่างๆ มาใช้ในองค์กร ส่งเสริมความเท่าเทียม เพิ่มจำนวนบุคลากรหญิงที่ทำงานฟุตบอล 

ส่งบุคลากรไปร่วมงานกับสหพันธ์ฟุตบอลในรายการต่างๆ และเป็นเจ้าภาพการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ เพิ่มประสบการณ์ องค์ความรู้ให้แก่บุคลากรทั้งสมาคมฯ และสโมสรในการจัดแข่งขันมาตรฐานสากล อย่างต่อเนื่อง

เปิดใช้งานอาคารสำนักงาน FA Thailand เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 (1 ปีหลังจากได้รับเลือกตั้ง ) โดยสำนักงานสมาคมฯ ตั้งอยู่ที่ ณ อาคาร 40 ปี การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก ซึ่งในพิธีเปิดได้รับเกียรติจาก  ชีค ซัลมาน บิน อิบราฮิม อัล คาห์ลิฟา ประธานสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย เดินทางมาร่วมแสดงความยินดี

เปิดใช้งาน "ศูนย์พัฒนาศักยภาพกีฬาฟุตบอลครบวงจร" (High Performance Training Center) ณ มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2560 โดยมี จานนี อินฟานติโน ประธานฟีฟ่า, ชีค ซัลมาน บิน อิบรอฮีม อัล คอลีฟะห์ ประธานเอเอฟซี และ พล.ต.อ. สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ร่วมเป็นประธานเปิดในงาน ซึ่งศูนย์ฝึกแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อใช้งานและทำกิจกรรมระดับทีมชาติและฟุตบอลรากหญ้า ทีมชาติทุกชุดได้ใช้เก็บตัว และมีกิจกรรมพัฒนาฟุตบอล ทั้ง บอลเยาวชน อบรมผู้ตัดสิน อบรมโค้ช 

ฉลองการก้าวสู่ปีที่ 108 ของฟุตบอลไทย เปิดใช้งานอาคาร House of Thai Football เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 ซึ่งเป็นสำนักงานถาวรของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ แห่งใหม่ โดยอาคารแห่งนี้ มีทั้งหมด 3 ชั้น ประกอบไปด้วย ชั้น 1 เป็นห้องทำงาน ของเจ้าหน้าที่สมาคมฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด, ห้อง VAR รวมถึง ห้องประชุม และห้องอาหาร, ส่วนชั้นที่ 2 สนามฟุตซอลขนาดมาตรฐาน ห้องอาบน้ำ ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้านักกีฬา และห้องประชุมใหญ่ 1 ห้อง ชั้นที่ 3 เป็นห้องทำงานของคณะผู้บริหาร และห้องประชุมต่างๆ 

ความพยายามในการเดินหน้าสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติครบวงจร ได้บทสรุป ในปี 2566 หลังพยายามผลักดันโครงการมาตลอดระยะวาลา 7 ปี ในการหาที่ดิน และของบประมาณจาก สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า จนได้รับการอนุมัติโครงการ FIFA Forward 3.0 กรอบวงเงิน จำนวน 3 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 100 ล้านบาท เพื่อนำไปก่อสร้างศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติครบวงจร โดยสมาคมฯ ได้ลงนาม MOU กับ กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อใช้ที่ดินในตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งกำลังอยู่ระหว่างขั้นตอนของการเริ่มดำเนินการก่อสร้าง

การบริหารงาน พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง มีความสัมพันธ์ที่ดีกับองค์กรฟุตบอลทั่วโลก โดยเฉพาะ เอเอฟซี และฟีฟ่า ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งสภากรรมการเอเอฟซีสองสมัย มีวาระถึงปี 2027 

ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดงาน AFC Annual Awards ปี 2017

ประเทศไทย ได้รับความไว้วางใจให้เป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันฟุตบอลชิงเเชมป์เอเชีย U23 ปี 2020 รอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 8-26 มกราคม 2563, จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงเเชมป์เอเชีย U17 ปี 2023 รอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 15 มิถุนายน - 2 กรกฎาคม 2023, จัดการแข่งขันฟุตบอลชายหาดชิงแชมป์เอเชีย 2023 รอบสุดท้าย ที่หาดจอมเทียน เมืองพัทยา ระหว่างวันที่ 16-26 มีนาคม 2566 , จัดการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2024 รอบสุดท้าย ระหว่างวันที่ 17-28 เมษายน 2567  และรายการสำคัญๆ อีกมากมาย 

ประเทศไทย ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพการประชุมใหญ่สามัญประจำปี FIFA Congress ครั้งที่ 74 ในช่วงเดือน 17 พฤษภาคม 2567 โดยงานดังกล่าวจะมีคนฟุตบอลจากทั่วโลก 211 ชาติ เดินทางมาเข้าร่วม

การพัฒนาฟุตบอลลีกอาชีพของไทย

ปัจจุบัน ฟุตบอลไทยลีก (Thai League) มีมาตรฐานและคุณภาพ อยู่อันดับที่ 8 ของทวีปเอเชีย และอยู่อันดับที่ 4 ของเอเชียฝั่งตะวันออก เป็นรองเพียงลีกฟุตบอลอาชีพของ สาธารณรัฐประชาชนจีน, สาธารณรัฐเกาหลี และ ญี่ปุ่น ในการจัดลำดับของ AFC Club Competitions Ranking ประจำปี 2022 โดยลีกสูงสุดของประเทศไทย ได้คะแนนรวมอยู่ที่ 49.470 คะแนน เป็นการคิดคะแนนรวมตั้งแต่ฤดูกาล 2014 จนถึง 2022 ซึ่งเป็นอันดับที่ 1 ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สมาคมฯ นำเทคโนโลยี VAR VIDEO ASSISTANT REFEREE หรือ VAR เข้ามาใช้ในฟุตบอลลีกอาชีพ เป็นชาติแรกในอาเซียน และมีการพัฒนาผู้ตัดสินให้ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ โดยมีการอบรมบุคลากรที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง 

ล่าสุด สมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ เอเอฟซี  แจ้งขอใช้ VAR Center ของสมาคมฯ ในการแข่งขัน AFC Champions League 2023/24 รอบแบ่งกลุ่ม เกมเหย้าของ 3 สโมสรจากประเทศไทย ทั้งหมด 9 แมตช์ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 8 ชาติ ที่เอฟเอฟซี เลือกให้มีการใช้ VAR Center ในการแข่งขันรอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจากเห็นว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพตามมาตรฐาน

นอกจากนี้ ฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน เข้าร่วมโครงการต่างๆ ขององค์กรผู้ตัดสิน เพื่อสร้างผู้ตัดสินสายเลือดใหม่ขึ้นมาทำหน้าที่ และมีการอบรมทบทวนกติกาให้แก่ผู้ตัดสิน ตลอดในทุกสัปดาห์ เพื่อเพิ่มเติมประสบการณ์และยกระดับผู้ตัดสิน ส่งผู้ตัดสินไปทำหน้าที่ในเกมระดับนานาชาติ อย่างต่อเนื่องที่ได้รับการร้องขอจากเอเอฟเอฟ,เอเอฟซี และ ฟีฟ่า 

ปัจจุบัน สมาคมฯ มีผู้ตัดสิน ระดับ ชั้น 1 จำนวน 105 คน , ระดับชั้น 2 จำนวน 318 คน และ ระดับชั้น 3 จำนวน 823 คน นอกจากนี้ ฝ่ายพัฒนาผู้ตัดสิน ยังได้ผลักดันผู้ตัดสินไทยให้ก้าวสู่การเป็นผู้ตัดสินระดับ FIFA และโครงการพัฒนาผู้ตัดสินไทย FAT Referee Academy สู่ AFC จนปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้ตัดสินระดับ FIFA ELITE (ชาย) จำนวน 4 คน, ผู้ตัดสินระดับ FIFA ELITE (หญิง) จำนวน 3 คน , ผู้ตัดสินวิดีทัศน์ ระดับ FIFA จำนวน 3 คน, ผู้ช่วยผู้ตัดสินระดับ FIFA ELITE (ชาย) จำนวน 5 คน,ผู้ช่วยผู้ตัดสินระดับ FIFA ELITE (หญิง) จำนวน 3 คน, ผู้ตัดสินฟุตซอล ระดับ FIFA ELITE (ชาย) จำนวน 3 คน, ผู้ตัดสินระดับ FIFA จำนวน 2 คน,ผู้ตัดสินฟุตซอล ระดับ FIFA (ชาย) จำนวน 1 คน, ผู้ช่วยผู้ตัดสินระดับ FIFA จำนวน 3 คน, ผู้ตัดสินฟุตบอลชายหาด ระดับ FIFA จำนวน 2 คน  

สมาคมฯ นำนโยบายและระเบียบของการจัดการแข่งขันของเอเอฟซี หรือ คลับไลเซนซิ่ง เข้ามาบังคับใช้ซึ่งถือเป็นการวางรากฐานให้กับสโมสรที่จะก้าวขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด และสามารถจัดการแข่งขันฟุตบอลในระดับนานาชาติได้ 

ออกข้อกำหนดให้ฟุตบอลลีกอาชีพในประเทศไทยถูกกฎหมาย โดยกำหนดให้ทุกสโมสรต้องจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และขึ้นทะเบียนเป็นสโมสรฟุตบอลอาชีพตามกฎหมาย กับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ทุกสโมสร โดยที่ผ่านมาในอดีตมีสโมสรสมาชิกขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้องกับ กกท. ไม่ถึง 10 สโมสร

การพัฒนาด้านเทคนิค

สมาคมฯ ดึง การ์เลส โรมาโกซา เข้ามาเป็นผู้อำนวยการเทคนิค เพื่อวางรากฐานการพัฒนาฟุตบอลขั้นพื้นฐาน และช่วยยกระดับฟุตบอลเยาวชนให้มีมาตรฐานและสอดคล้องกับ เอเอฟซี และ ฟีฟ่า ซึ่งกลยุทธ์และแผนพัฒนาฟุตบอลต่างๆ ทุกโครงการสามารถนำมาต่อยอดเพื่อยกระดับในการพัฒนาฟุตบอลไทยในแต่ละด้านได้อย่างต่อเนื่องทันที

การวางกลยุทธ์และแผนพัฒนาฟุตบอลไทย (Strategy - The curriculum (FAT book) การเขียนตำราหลักสูตรพัฒนาฟุตบอลไทย, การวิเคราะห์ระบบนิเวศฟุตบอลทั่วโลกกับ FIFA, ร่วมมือโครงการพัฒนาฟุตบอลกับสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป,การเซ็นบันทึกความร่วมมือกับ กรมพลศึกษา เพื่อบูรณาการฟุตบอลร่วมกัน นับเป็น หลักสูตรพัฒนาฟุตบอลไทยของสมาคมฯ เป็นเอกสารเกณฑ์มาตรฐาน ทำให้ไทยเป็นสมาคมฟุตบอลของเอเชียที่มีการพัฒนาด้านเทคนิคมากที่สุดในอาเซียน ในช่วงระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา โดยปัจจุบันได้รับอันดับที่ 4 ต่อจากญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และกาตาร์ 

การพัฒนาฟุตบอลหญิง (Women's Football) ร่วมกับ  FIFA  โดย สมาคมฯ ได้เข้าร่วมทุกโปรแกรมของ FIFA กลยุทธ์สำหรับฟุตบอลหญิง, กราสรูทหญิง, ลีกเยาวชนฟุตบอลหญิง, ใบอนุญาตสโมสรฟุตบอลหญิง, การฝึกอบรมโค้ช, การสร้างความสามารถบุคลากร, โปรแกรมการฝึกอบรมผู้นำและให้ตำแนะนำ, การสร้างแผนกลยุทธ์พัฒนาฟุตบอลหญิงในทุกมิติ, การเสริมสร้างทักษะสำหรับบุคลากรและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานในฟุตบอลหญิง, การออกใบอนุญาตสำหรับสโมสรฟุตบอลหญิง, การพัฒนาโครงสร้างลีกการแข่งขันฟุตบอลหญิง, การจัดกิจกรรมเพื่มส่งเสริมความนิยมในฟุตบอลหญิง, ทุนการศึกษาสำหรับผู้ฝึกสอนฟุตบอลหญิงในทุกระดับ, การจัดการแข่งขันระดับเยาวชนหญิงรุ่น อายุไม่เกิน 16 ปี, การจัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน ระดับเยาวชนหญิงรุ่น อายุไม่เกิน 12 ปี, การจัดการแข่งขันฟุตบอล 7 คน ระดับเยาวชนหญิงรุ่น อายุไม่เกิน 14 ปี และการจัดทำฐานข้อมูลสำหรับนักฟุตบอลและเจ้าหน้าที่ในฟุตบอลหญิง

การพัฒนาเยาวชน (Youth Development) โดย สมาคมฯ ได้รับรางวัล ระดับสูงสุด 3 ดาว จาก AFC สำหรับโครงการที่ดำเนินการสำหรับเยาวชน ซึ่งรวมถึงลีกเยาวชน, ใบอนุญาตศูนย์ฝึกฟุตบอล, กระบวนการทีมชาติเยาวชน และการวิเคราะห์ผลการแข่งขัน