สรุปผลการประชุมคณะกรรมการอุทธรณ์ ครั้งที่ 1 ประจำฤดูกาล 2568/69

เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการอุทธรณ์ ครั้งที่ 1 ประจำฤดูกาล 2568/69 โดยมี พลตำรวจเอก สุเทพ เดชรักษา เป็นประธาน

กรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการช้าง เอฟเอ คัพ (รอบ 64 ทีม) วันที่ 29 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรนครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้  พบ สโมสรปัตตานี เอฟซี

- เหตุการณ์
ผู้ควบคุมการแข่งขันได้ตรวจทานใบส่งรายชื่อจึงพบว่าสโมสรปัตตานี เอฟซี ได้ส่งผู้เล่นต่างชาติลงสนามแข่งขัน 1 คน และส่งรายชื่อตัวสำรองไว้ 3 คน ผู้ควบคุมการแข่งขันจึงได้เดินไปคุยกับผู้อำนวยการสโมสรปัตตานี เอฟซี ว่ามีการส่งรายชื่อผู้เล่นต่างชาติลงทำการแข่งขันได้ไม่เกิน 3 คน ผู้อำนวยการสโมสรปัตตานี เอฟซี ได้แจ้งกับผู้ควบคุมการแข่งขันว่าจะไม่ส่งผู้เล่นต่างชาติที่มีรายชื่อสำรองทั้งหมดลงสนามแข่งขัน และได้แจ้งให้ผู้เล่นต่างชาติที่มีชื่อสำรองขึ้นห้องพัก และให้ทำการเปลี่ยนชุดแข่งขันออกแยกย้ายไปอบอุ่นร่างกายและเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเพื่อเตรียมเดินทางกลับ 

- ผลพิจารณาจากคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท
แม้สโมสรปัตตานี เอฟซี จะส่งรายชื่อนักกีฬาต่างชาติเกินจำนวนตามที่กำหนดในระเบียบฯ แต่มิได้มีการฝ่าฝืนให้นักกีฬาต่างชาติที่เกินจำนวนดังกล่าวลงสนามแข่งขันจริง และได้พยายามแก้ไขการกระทำการกระทำดังกล่าวทันที โดยไม่ก่อให้เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบในการแข่งขัน พฤติการณ์แสดงให้เห็นว่า สโมสรปัตตานี เอฟซี ไม่มีเจตนาชัดแจ้งที่จะฝ่าฝืนระเบียบ จึงพิจารณาลงโทษตักเตือน สโมสรปัตตานี เอฟซี ตามบทที่ 3 ของระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท 

- สโมสรนครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ยื่นอุทธรณ์
ไม่เห็นด้วยกับการเตือน แม้จะเป็นการกระทำความผิดครั้งแรก แต่ระเบียบการแข่งขันได้กำหนดเรื่องจำนวนโควตาการส่งรายชื่อนักกีฬาต่างชาติลงทำการแข่งขันไว้อย่างชัดเจน และสโมสรปัตตานี เอฟซี เป็นสโมสรที่เข้าร่วมการแข่งขันในระดับลีกอาชีพ ควรปฏิบัติตามระเบียบการแข่งขัน

- ผลพิจารณาจากคณะกรรมการอุทธรณ์
คณะกรรมการอุทธรณ์ ได้พิจารณาข้อเท็จจริง ตามบทบัญญัติของระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท บทที่ 3  และรายงานเหตุการณ์ เห็นว่า สโมสรปัตตานี เอฟซี มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่ามิได้มีเจตนาฝ่าฝืนระเบียบโดยชัดแจ้ง ประกอบกับเป็นกรณีที่เกิดจากความบกพร่องของผู้ควบคุมการแข่งขันซึ่งมิได้มีการแจ้งเตือนก่อนเริ่มการแข่งขัน และสโมสรปัตตานี เอฟซี ได้พิจารณาให้นักกีฬาต่างชาติตัวสำรองทั้ง 3 คน ออกจากบริเวณการแข่งขันทันที ทั้งนี้ หากมีการส่งนักกีฬาต่างชาติที่เป็นตัวสำรองลงแข่งขันด้วย จึงจะเข้าข่ายสร้างความเสียหายหรือความได้เปรียบเหนือคู่แข่งขัน ในกรณีนี้ สโมสรปัตตานี เอฟซี ได้ส่งนักกีฬาต่างชาติลงแข่งขันจริงเพียง 1 คน จึงมิได้ก่อให้เกิดความได้เปรียบในการแข่งขัน  เมื่อพิจารณาพฤติการณ์ทั้งหมดแล้ว สโมสรปัตตานี เอฟซี ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขแห่งการบรรเทาความเสียหายครบถ้วน  คณะกรรมการอุทธรณ์ เห็นพ้องด้วยกับคำตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ยืนโทษตามคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ให้ลงโทษ ตักเตือน สโมสรปัตตานี เอฟซี ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษวินัย มารยาท บทที่ 3

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
บทที่ 3 ข้อความว่า
ในกรณีที่ผู้กระทำหรือองค์กรสมาชิก ได้กระทำผิดตามระเบียบฉบับนี้เป็นครั้งแรก และพฤติการณ์แสดงให้เห็นว่าผู้กระทำหรือองค์กรสมาชิก ไม่มีเจตนาที่จะฝ่าฝืนระเบียบข้อดังกล่าวโดยชัดแจ้ง หากว่าการกระทำนั้นไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้หนึ่งผู้ใด หรือการกระทำนั้นผู้กระทำหรือองค์กรสมาชิกได้พยายามแก้ไขการกระทำที่ผิดระเบียบนั้น หรือองค์คณะตุลาการ เห็นว่ามีเหตุผลสมควรประการอื่น องค์คณะตุลาการอาจพิจารณาลงโทษด้วยการเตือนได้ แม้ว่าระเบียบการลงโทษในเรื่องนั้น ๆ จะไม่ได้กำหนดโทษเตือนไว้ก็ตาม 

การกระทำใด ๆ ที่แม้จะไม่ได้เป็นการฝ่าฝืนระเบียบฉบับนี้ แต่หากองค์คณะตุลาการ เห็นว่า การกระทำดังกล่าว เป็นการไม่เหมาะสมที่กระทำในการแข่งขันกีฬาฟุตบอล องค์คณะตุลาการอาจพิจารณาลงโทษด้วยการเตือนได้ ทั้งนี้ หากกระทำความผิดซ้ำอีก จะพิจารณาลงโทษตามที่องค์คณะตุลาการ จะพิจารณาตามที่เห็นสมควร