สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 17 ประจำฤดูกาล 2568/69

เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 17 ประจำฤดูกาล 2568/69 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ PEA U-21 YOUNGSTER LEAGUE 2025 วันที่ 11 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี U-21 พบ สโมสรราชบุรี เอฟซี U-21 (สโมสรราชบุรี เอฟซี U-21 ร้องเรียนมา 3 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 17 หลังจากผู้เล่นหมายเลข 36 นายทัศนพล คงสุข สโมสรราชบุรี เอฟซี U-21 ทำฟาลว์ ผู้ตัดสินได้คาดโทษ (ใบเหลือง) แก่ผู้เล่นคนดังกล่าว ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวไม่ได้ฟาลว์รุนแรง ไม่สมควรได้รับใบเหลือง 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายดัสกร หกลา ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (2) ภาคทัณฑ์ เนื่องจากแม้การใช้มือดึงของผู้เล่นหมายเลข 36 นายทัศนพล คงสุข สโมสรราชบุรี เอฟซี (ฝ่ายรับ) จะเป็นการทำฟาวล์จริง แต่จากตำแหน่งและสถานการณ์ในขณะนั้น ผู้เล่นฝ่ายรุกยังไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่มีโอกาสทำเกมรุกอย่างชัดเจน และยังมีผู้เล่นฝ่ายรับอยู่ในตำแหน่งที่สามารถเข้าร่วมเล่นบอลได้ จึงไม่เข้าเกณฑ์ของการหยุดโอกาสในการทำเกมรุกของคู่ต่อสู้ (ไม่เป็น SPA) ดังนั้น การลงโทษด้วยใบเหลือง ถือเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง 

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 26 หลังจากลูกบอลออกข้างสนาม ผู้ตัดสินให้สโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี U-21 ได้ทำการทุ่มบอล ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าว ผู้เล่นหมายเลข 14 ธนวัฒน์ วงษ์หวุน สโมสรราชบุรี เอฟซี U-21 ได้เตะบอลไปโดนผู้เล่นของสโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี U-21 ออกนอกสนามในจังหวะสุดท้าย ดังนั้น ผู้ตัดสินควรให้สโมสรราชบุรี เอฟซี U-21 ได้ทุ่มบอล 

- ผลพิจารณา
ยกคำร้อง เนื่องจาก คลิปภาพเหตุการณ์ไม่สามารถระบุได้ชัดว่าผู้เล่นคนใดเป็นผู้สัมผัสลูกบอลครั้งสุดท้ายก่อนออกนอกสนาม  

- เหตุการณ์ที่ 3
 ในนาทีที่ 90+3 ผู้เล่นสโมสรราชบุรี เอฟซี U-21 ถูกผู้เล่นสโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี U-21 เข้าปะทะจนล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวควรเป็นการฟาวล์ และควรเป็นจุดโทษแก่สโมสรราชบุรี เอฟซี U-21

- ผลพิจารณา
นายดัสกร หกลา ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้เล่นกองหน้าของสโมสรราชบุรี เอฟซี พยายามเร่งเข้าแย่งชิงลูกบอล แต่เนื่องจากทิศทางของลูกบอลกลิ้งเข้าหาผู้เล่นกองหลังของสโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี ทำให้ผู้เล่นของสโมสรราชบุรี เอฟซี ที่กำลังวิ่งเข้ามานั้น ต้องเหยียดเท้าเพื่อจิ้มบอล แม้จะสามารถสัมผัสลูกบอลได้ก่อน แต่ไม่สามารถทรงตัว หรือพยุงร่างกายต่อเนื่องในจังหวะการเล่นได้ ส่งผลให้เกิดการปะทะและล้มลงเอง  และผู้เล่นกองหลังของสโมสรพลังกาญจน์ เอฟซี ซึ่งอยู่ในจังหวะได้เปรียบในการเล่นบอล ไม่ได้มีการเหยียดเท้าหรือกระทำการใดที่เข้าข่ายการทำฟาวล์ หากแต่เป็นการเคลื่อนที่ตามธรรมชาติของการเล่นบอลปกติ การปะทะเกิดจากการเหยียดเท้าและเสียหลักของผู้เล่นกองหน้าของสโมสรราชบุรี เอฟซี ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาวล์ ถือเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรแปดริ้ว ซิตี้ พบ สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด (สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 52 ผู้เล่นหมายเลข 25 Mr. DONATUS EHIEMERE สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด ส่งบอลให้ผู้เล่นหมายเลข 14 นายชินาธิป พร้อมทอง สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด ก่อนที่เลี้ยงหลุดเข้าไปทำประตู แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ยกธงแจ้งล้ำหน้า ทำให้สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด ไม่ได้ประตู ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวไม่ล้ำหน้า เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 14 นายชินาธิป พร้อมทอง สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด ได้รับบอลในแดนของตน

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายพงศภัค ทองพูน ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากจังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 25 Mr. DONATUS EHIEMERE สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด ทำการส่งบอลให้ผู้เล่นหมายเลข 14 นายชินาธิป พร้อมทอง สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด นั้น ผู้เล่นหมายเลข 14 นายชินาธิป พร้อมทอง สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด ยังคงอยู่ในแดนของตน จึงสามารถเข้ามาเล่นลูกบอลได้ โดยไม่เป็นความผิด เนื่องจากเข้าเงื่อนไข “ข้อยกเว้นล้ำหน้า” ตามกติกาข้อ 11. Offside ดังนั้น การที่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ยกธงแจ้งล้ำหน้า ถือเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง 

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 15 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรเชียงใหม่ เอฟซี พบ สโมสรอุตรดิตถ์ เอฟซี (สโมสรอุตรดิตถ์ เอฟซี ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 10 ผู้เล่นหมายเลข 19 นายเกื้อหนุน จันทร์อำไพ สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี ถูกผู้รักษาประตูหมายเลข 99 นายอิทธิพล คำสุพรหม สโมสรอุตรดิตถ์ เอฟซี ปะทะจนล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์ และให้จุดโทษกับสโมสรเชียงใหม่ เอฟซี ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ก่อนที่จะมีการปะทะ ผู้เล่นหมายเลข 19 นายเกื้อหนุน จันทร์อำไพ สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี มีเจตนาใช้มือซ้ายปัดบอลอย่างชัดเจน จังหวะดังกล่าวจึงไม่ควรเป็นจุดโทษ 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายชลิต พลอยเพ็ชร์ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 19 นายเกื้อหนุน จันทร์อำไพ สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี ได้เจตนาใช้มือเล่นลูกบอล โดยมือซ้ายได้ปัดลูกบอลออกไปก่อนที่จะเกิดการปะทะกับผู้รักษาประตู การกระทำดังกล่าวถือเป็นการทำฟาวล์ตามกติกา เกี่ยวกับการใช้มือเล่นบอลโดยมิชอบ ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินพิจารณาว่าผู้รักษาประตูทำฟาวล์ และให้เป็นจุดโทษ ถือเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 37 ผู้เล่นหมายเลข 10 Mr. DIEGO OLIVEIRA SILVA สโมสรอุตรดิตถ์ เอฟซี ถูกผู้เล่นหมายเลข 34 นายอรรถพล กันหนู สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี สไลด์ตัวเข้าข้างหลังโดยการเปิดปุ่ม ผู้ตัดสินเป่าฟาลว์ แต่ไม่ได้มีการลงโทษใด ๆ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวผู้ตัดสินควรต้องลงโทษผู้เล่นหมายเลข 34 นายอรรถพล กันหนู สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายชลิต พลอยเพ็ชร์ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 34 นายอรรถพล กันหนู สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี ได้สไลด์เข้าสกัดจากด้านข้าง (Sliding Tackle) โดยเท้ามีลักษณะลอยจากพื้นและสัมผัสถูกบริเวณด้านข้างของเท้าคู่ต่อสู้ ซึ่งเป็นการเล่นที่เสี่ยงทำให้เกิดอันตรายต่อฝ่ายตรงข้าม ตามกติกาต้องลงโทษด้วยการคาดโทษ (ใบเหลือง) แก่ผู้เล่นหมายเลข 34 นายอรรถพล กันหนู สโมสรเชียงใหม่ เอฟซี ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินไม่ให้ใบเหลือง ถือเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง

*** สรุปบทลงโทษ นายชลิต พลอยเพ็ชร์ ผู้ตัดสิน ในเหตุการณ์ที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ และเหตุการณ์ที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์ (รวมผลการพิจารณาโทษ ลงโทษนายชลิต พลอยเพ็ชร์ ผู้ตัดสิน พักการปฏิบัติหน้าที่ 7 สัปดาห์)

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ พบ สโมสรนอร์ทเทิร์น นครแม่สอด ยูไนเต็ด (สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 54 ผู้รักษาประตูหมายเลข 19 นายศิริภพ จงอ่อนกลาง สโมสรนอร์ทเทิร์น นครแม่สอด ยูไนเต็ด ขว้างบอลไปติดผู้เล่นหมายเลข 77 Mr. KIM SEONG SOO สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ บริเวณหน้ากรอบเขตโทษ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์แฮนด์บอล ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวไม่ใช่จังหวะแฮนด์บอลแต่อย่างใด จึงเป็นเหตุให้สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ เสียโอกาสในการเข้าทำประตู

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายธนิสร อ่อนจิ๋ว ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (2) ภาคทัณฑ์ เนื่องจากขณะที่ลูกบอลลอยมากระทบด้านหลังบริเวณลำตัวและแขนใกล้หัวไหล่ของผู้เล่นหมายเลข 77 Mr. KIM SEONG SOO สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ นั้น ผู้เล่นไม่มีเวลาและความสามารถเพียงพอที่จะหลบหลีกได้ทัน และไม่ได้มีพฤติกรรมที่เข้าข่ายการเล่นลูกบอลด้วยมือ หรือแขนโดยเจตนาตามหลักกติกาข้อกำหนดเกี่ยวกับการทำแฮนด์บอล การสัมผัสลูกบอลดังกล่าว ไม่ถือเป็นการทำแฮนด์บอล ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์แฮนด์บอล ถือเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 56 ผู้เล่นหมายเลข 9 นายนัทธพงศ์ พรมเสน สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ ถูกผู้เล่นสโมสรนอร์ทเทิร์น นครแม่สอด ยูไนเต็ด ขัดขวางการเล่นจากด้านหลังจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ จนเป็นเหตุให้ในจังหวะต่อมา สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ เสียฟาวล์ และทำให้เสียประตู 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายธนิสร อ่อนจิ๋ว ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (2) ภาคทัณฑ์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 9 นายนัทธพงศ์ พรมเสน สโมสรสิงห์ เชียงราย ซิตี้ ซึ่งครอบครองลูกบอลอยู่ในความควบคุมของตน ถูกผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามใช้มือผลักจนล้มลง การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายการทำฟาวล์ในลักษณะการผลัก (Pushing / Charge) ตามกติกา ผู้ตัดสินควรเป่าหยุดเกม และให้เป็นการฟาวล์ตั้งแต่จังหวะแรกที่เกิดการผลักดังกล่าว ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ในจังหวะนี้ ถือเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง

*** สรุปบทลงโทษ นายธนิสร อ่อนจิ๋ว ผู้ตัดสิน ในเหตุการณ์ที่ 1 และเหตุการณ์ที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ภาคทัณฑ์ (รวมผลการพิจารณาโทษ ลงโทษนายธนิสร อ่อนจิ๋ว ผู้ตัดสิน พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 สัปดาห์)

5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 สโมสรชาติตระการ ซิตี้ พบ สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด (สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 81 ผู้เล่นหมายเลข 19 นายกฤษฎา ต่ายวงค์ สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด ถูกผู้เล่นหมายเลข 44 นายพิษณุ สีบุตรา สโมสรชาติตระการ ซิตี้ สกัดจากด้านหลังจนล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์ว ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นหมายเลข 44 นายพิษณุ สีบุตรา สโมสรชาติตระการ ซิตี้ กระทำผิดตามกติกา จังหวะดังกล่าวควรเป็นจุดโทษกับสโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด  

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายอนุรักษ์ เสนแก้ว ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 19 นายกฤษฎา ต่ายวงค์ สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด ได้เข้าถึงลูกบอลก่อนและเตะลูกบอลไปด้านหน้า ผู้เล่นหมายเลข 44 นายพิษณุ สีบุตรา สโมสรชาติตระการ ซิตี้ พยายามเตะสกัดลูกบอล แต่เข้าเล่นลูกบอลช้ากว่า ส่งผลให้ขาซ้ายของผู้เล่นหมายเลข 19 นายกฤษฎา ต่ายวงค์ สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด ถูกเตะ/ขัดขาและล้มลง เป็นการกระทำผิดกติกาในลักษณะเตะขัดขา (Kicking/Tripping) ทำให้ฝ่ายตรงข้ามล้มลง ซึ่งเป็นการทำฟาวล์เกิดในเขตโทษ ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์และไม่ให้ลูกจุดโทษ ถือเป็นการตัดสินไม่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 84 ผู้เล่นหมายเลข 5 นายพรเทพ จันทร์ไข่ สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด พยายามเข้าแย่งชิงลูกบอลในเขตโทษกับผู้เล่นหมายเลข 29 Mr. DIARRA JUNIOR ABOUBACAR สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์และให้เป็นจุดโทษกับสโมสรชาติตระการ ซิตี้ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นหมายเลข 5 นายพรเทพ จันทร์ไข่ สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด สกัดไม่โดนตัวผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม จึงไม่ควรเป็นจุดโทษ

- ผลพิจารณา
นายอนุรักษ์ เสนแก้ว ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 29 Mr. DIARRA JUNIOR ABOUBACAR สโมสรชาติตระการ ซิตี้ มีความได้เปรียบด้านความเร็ว และสามารถเข้าถึงลูกบอลก่อน จึงใช้เท้าสัมผัสและเล่นบอลไปด้านหน้า ส่งผลให้ผู้เล่นหมายเลข 5 นายพรเทพ จันทร์ไข่ สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด เตะไม่ถูกลูกบอล และเท้าที่เหวี่ยงเข้ามานั้น ได้ไปกีดขวางการเคลื่อนที่ของผู้เล่นหมายเลข 29 Mr. DIARRA JUNIOR ABOUBACAR สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ซึ่งอยู่ในจังหวะวิ่งตามลูกบอล การกระทำดังกล่าวทำให้เกิดการสะดุดเท้าลักษณะคล้ายการขัดขา ส่งผลให้ผู้เล่นหมายเลข 29 Mr. DIARRA JUNIOR ABOUBACAR สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ล้มลงในจังหวะต่อมา ผู้ตัดสินจึงเป่าฟาวล์ และเนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นภายในเขตโทษ ผู้ตัดสินจึงให้สโมสรชาติตระการ ซิตี้ ได้เตะโทษ ณ จุดโทษ ถือเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง

6. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรลำพูน วอริเออร์ พบ สโมสรอุทัยธานี เอฟซี (สโมสรอุทัยธานี เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 90+2 ผู้เล่นหมายเลข 72 Mr. BRUNO HENRIQUE BAIO DA CUNHA สโมสรอุทัยธานี เอฟซี โหม่งบอลไปถูกแขนซ้ายของผู้เล่นหมายเลข 22 Mr. ALY CISSOKHO สโมสรลำพูน วอริเออร์ ในเขตโทษ ผู้ตัดสินไม่ได้มีการเป่าฟาวล์แฮนด์บอล  ต่อมา VAR เรียกผู้ตัดสินมาการตรวจสอบในเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อผู้ตัดสินตรจสอบแล้ว ยืนยันคำตัดสินเดิม ทำให้สโมสรอุทัยธานี เอฟซี ไม่ได้จุดโทษ 

- ผลพิจารณา
นายวิวรรธน์ จำปาอ่อน ผู้ตัดสิน และนายศรายุทธ จักรเงิน ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากลักษณะการกางแขนของผู้เล่นหมายเลข 22 Mr. ALY CISSOKHO สโมสรลำพูน วอริเออร์ เป็นไปตามธรรมชาติของการกระโดดเพื่อพยุงร่างกาย และการสัมผัสลูกบอลเกิดขึ้นจากการโหม่งของผู้เล่นหมายเลข 72 Mr. BRUNO HENRIQUE BAIO DA CUNHA สโมสรอุทัยธานี เอฟซี ในระยะใกล้ จึงไม่มีความผิดฐานแฮนด์บอล และเนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่สำคัญและอยู่ในช่วงทดเวลาการแข่งขัน VAR จึงแนะนำให้ผู้ตัดสินออกมาตรวจสอบอีกครั้งเพื่อความชัดเจน หลังตรวจสอบแล้ว ผู้ตัดสินยืนยันคำตัดสินเดิม เป็นไปตามหลักการของ VAR Protocol ถือเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง  

7. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีล ไฟว์ ลีกสอง วันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด พบ สโมสรราษีไศล ยูไนเต็ด (สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 60 ผู้เล่นหมายเลข 10 นายอาทิตย์ บุตรจินดา สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ยิงบอลไปถูกแขนขวาของผู้เล่นหมายเลข 32 นายสมยศ พงษ์สุวรรณ สโมสรราษีไศล ยูไนเต็ด ในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์แฮนด์บอล รวมทั้ง VAR ไม่ได้เรียกผู้ตัดสินมาตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ไม่ได้จุดโทษ

- ผลพิจารณา
นายเกรียงไกร ทิพานันจารุกร ผู้ตัดสิน และนายวทัญญู โมริน ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากจังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 10 นายอาทิตย์ บุตรจินดา สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด ยิงลูกบอลเข้าหาประตู ผู้เล่นหมายเลข 32 นายสมยศ พงษ์สุวรรณ สโมสรราษีไศล ยูไนเต็ด (ฝ่ายรับ) ยืนขวางทิศทางของลูกบอลอยู่ก่อนแล้ว ลูกบอลได้สัมผัสบริเวณแขนขวาใต้ข้อศอกของผู้เล่นฝ่ายรับ ในจังหวะที่ผู้เล่นมีการเอียงตัวหลบเลี่ยงลูกบอล แขนอยู่แนบลำตัวในลักษณะเป็นธรรมชาติ ไม่ได้กางออกเพื่อทำให้ร่างกายใหญ่ขึ้น ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์และไม่ให้จุดโทษ ถือเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง  

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 61 ก่อนที่ผู้ตัดสินจะตัดสินให้สโมสรราษีไศล ยูไนเต็ด ได้จุดโทษ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะก่อนหน้านี้ ผู้เล่นหมายเลข 44 นายวิชิต กองสินแก้ว สโมสรราษีไศล ยูไนเต็ด อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ไม่ได้มีการยกธงแจ้ง รวมทั้ง VAR ไม่ได้มีการตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สโมสรขอนแก่น ยูไนเต็ด เสียจุดโทษ

- ผลพิจารณา
นายเกรียงไกร ทิพานันจารุกร ผู้ตัดสิน และนายวทัญญู โมริน ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากคลิปภาพจากห้อง VAR ได้แสดงผลการตีเส้นกำกับตำแหน่งผู้เล่นอย่างชัดเจน โดยปรากฏให้เห็นว่า ผู้เล่นหมายเลข 44 นายวิชิต กองสินแก้ว สโมสรราษีไศล ยูไนเต็ด ไมได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าแต่อย่างใด อีกทั้ง VAR ได้ทำการตรวจสอบเหตุการณ์การครอบครองบอลในเกมรุก (APP) ทุกเหตุการณ์อย่างครบถ้วน ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินเป่าฟาวล์และให้จุดโทษ ถือเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง