ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เริ่มต้นด้วยรากฐานที่มั่นคง … ในวงการฟุตบอลก็เช่นเดียวกัน
หลายคนอาจมองเพียงความสำเร็จของเหล่าบรรดาขุมพลทีมชาติ แต่อาจลืมไปว่าพวกเขาเหล่านั้นล้วนเติบโตขึ้นมาจากการเป็นเยาวชน ดังนั้นหากจะสร้างความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนก็ต้องเริ่มจากรากฐานและระบบอันแข็งแกร่ง
แนวคิดนี้จึงเป็นที่มาของโครงการ GROW TOGETHER ที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จับมือและได้รับการสนับสนุนจากฟีฟ่า ในการพัฒนาฟุตบอลทั้งระบบ เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งตั้งแต่ระดับเยาวชน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต่อยอดสู่ความสำเร็จอย่างมั่นคงต่อไปในอนาคต
โครงการ GROW TOGETHER คืออะไรและจะช่วยพัฒนาฟุตบอลไทยได้อย่างไร ติดตามได้ที่นี่
โครงการ GROW TOGETHER คือโครงการที่จะสร้างการพัฒนาฟุตบอลเยาวชนไทยทั้งระบบ ซึ่งถูกต่อยอดมาจากโครงการของฟีฟ่าที่ชื่อ “FIFA Talent Development Scheme” โดยมี อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีมอาร์เซนอล ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าแผนกพัฒนาฟุตบอลของฟีฟ่า เป็นผู้ริเริ่ม
กุนซือชาวฝรั่งเศส เชื่อว่า ฟุตบอลทุกชาติสามารถเป็นหนึ่งเดียวกันได้ และทุกชาติสามารถผลิตเด็กขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลที่มีคุณภาพได้ เหมือนเป็นการจัดวางระบบนิเวศน์ของฟุตบอลทั้งระบบบนฐานข้อมูลและเทคโนโลยีที่ทันสมัย จึงออกแบบโปรแกรมนี้มาเพื่อช่วยพัฒนาความสามารถของนักฟุตบอลทั้งหมดในทุกภาคส่วน ตั้งแต่ระดับรากหญ้า ไปจนถึงระดับทีมชาติ
โครงการนี้จะสร้างและจัดเก็บฐานข้อมูล รวมถึงการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้ เพื่อการพัฒนาหลักสูตรการอบรมผู้ฝึกสอนอคาเดมีฟุตบอล ศักยภาพนักกีฬา และการจัดการแข่งขันลีกเยาวชน ตลอดจนการทบทวนและวิเคราะห์เพื่อนำผลที่ได้ไปปรับปรุงหลักสูตร ภายใต้มาตรฐานเดียวกันที่จะส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย จึงได้นำนโยบายนี้มาใช้กับวงการฟุตบอลไทย เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งตั้งแต่ระดับเยาวชน อันเป็นปัจจัยสำคัญที่จะต่อยอดสู่ความสำเร็จในอนาคต พร้อมได้รับการสนับสนุนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทย และกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ (NSDF) รวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากฟีฟ่าที่พร้อมจะช่วยซัปพอร์ตเต็มที่
"เราจะพยายามสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในการพัฒนาวงการฟุตบอลไทยตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับทีมชาติ เราจะมีคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ การแลกเปลี่ยนไอเดีย และหาอุปกรณ์สนับสนุน"
"ผมมั่นใจว่านี่คือโอกาสดี ที่เราจะช่วยยกระดับวงการฟุตบอลในอนาคตไปด้วยกัน ผมตื่นเต้นและกระตือรือร้นอย่างมาก ในการทำงานร่วมกันครั้งนี้ และหวังว่าทุกอย่างจะประสบความสำเร็จ” อาร์แซน เวนเกอร์ ยืนยัน
[เดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม]
หลังจากที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้เริ่มเดินหน้าโครงการ GROW TOGETHER อย่างจริงจัง ทางสมาคมได้ดึงบุคลากรและผู้ทรงคุณวุฒิทุกภาคส่วนมาร่วมหารือและวางแผนในการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม
เริ่มต้นด้วยการจัดแข่งขันฟุตบอลลีกเยาวชน หรือ “Thai Youth League” รุ่นอายุไม่เกิน 14, 16 และ 18 ปี เพื่อเป็นเวทีให้นักฟุตบอลเยาวชนในรุ่นอายุต่าง ๆ ได้มีโอกาสลงแข่งขันในรายการที่ได้มาตรฐานอย่างสม่ำเสมอ โดยเปิดให้สโมสรในลีกหรืออคาเดมีที่ลงทะเบียนกับสมาคมส่งทีมร่วมแข่งขัน
สิ่งสำคัญก็คือทางสมาคมฟุตบอลจะจัดเก็บสถิติของนักกีฬาทุกคนที่ลงทะเบียนเข้าแข่งขันไว้เป็นฐานข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ พร้อมใช้โปรแกรมวิเคราะห์และให้ Scout ติดตามผลงานของแต่ละคน เพื่อคัดเลือกนักฟุตบอลเข้ามาติดทีมชาติในรุ่นนั้น ๆ ต่อไป
พร้อมกันนี้ยังสร้างมาตรฐานด้วยการให้โค้ชที่คุมทีมต้องได้รับไลเซนส์หรือผ่านการอบรมหลักสูตรเบื้องต้น FA Thailand Introductory จากทางสมาคมกีฬาฟุตบอล เพื่อให้โค้ชแต่ละคนพัฒนาเยาวชนไปในทิศทางเดียวกัน
เช่น รุ่นอายุ 14 ปี ควรเน้นเรื่องกติกา การสื่อสาร ทีมเวิร์ค, รุ่นอายุ 16 ปี ควรเรียนรู้การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หรือการเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่กดดัน เป็นต้น
ทำให้แข้งเยาวชนเหล่านี้จะได้รับการฝึกสอนอย่างถูกวิธี พร้อมได้นำทักษะที่มีมาใช้ลงเล่นในสนามอย่างสม่ำเสมอ นำมาซึ่งโอกาสในการพัฒนาฝีเท้าและความเข้าใจในเกมฟุตบอลอย่างถูกต้อง ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญของนักฟุตบอลเยาวชน ในการต่อยอดสู่การเป็นนักฟุตบอลอาชีพในอนาคต
นอกจากนี้ยังเป็นการพัฒนาและสร้างโอกาสให้กับบุคลากรฟุตบอลอีกหลายด้านไปพร้อม ๆ กัน ทั้ง โค้ช ผู้ตัดสิน เจ้าหน้าที่สโมสร ซึ่งถือเป็นการขับเคลื่อนและพัฒนาวงการฟุตบอลไทยให้ยั่งยืนอย่างเต็มรูปแบบ
และไม่เพียงแค่ในศึก Thai Youth League เท่านั้น แต่สมาคมกีฬาฟุตบอลยังเดินหน้ายกระดับการพัฒนาวงการฟุตบอลทั่วประเทศไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย
[สร้างความสำเร็จอย่างยั่งยืน]
นอกจากจะมีการเก็บข้อมูลและสถิติของแข้งเยาวชนในศึก Thai Youth League แล้ว ทางสมาคมกีฬาฟุตบอล ยังจัดทำโครงการ “Talent Identification” ภารกิจเฟ้นหานักฟุตบอลที่มีศักยภาพสูง ทั้ง 6 ภูมิภาคของเมืองไทย เข้าสู่ฐานข้อมูลทีมชาติ ด้วยเช่นกัน
โดยทางสมาคมฯ จะส่งทีมงาน Scout ไปมองหานักเตะที่โดดเด่น ทั้งไหวพริบและฟอร์มการเล่นเพื่อเก็บข้อมูลเข้าสู่ระบบ โดยจัดทีม 12 คน คือ ชาย 6 คนและหญิง 6 คน ไปซุ่มดูฟอร์มนักเตะ ทั้งหญิงและชาย ตามการแข่งขันรายการต่าง ๆ ทั้งเล็กและใหญ่ทั่วประเทศ เพื่อให้ได้ข้อมูลมากที่สุด ไม่ให้ Rising Star หลุดลอดสายตาไปได้
ทางทีม Scout จะใช้หลักเกณฑ์ T+MASC ในการพิจารณาให้คะแนน ประกอบด้วย Talent จุดเด่นและความสามารถเฉพาะตัว, Motricity กลไกของร่างกาย การเคลื่อนไหวและการเคลื่อนที่ในสนาม, Availability ทักษะการเล่นกับลูกบอล, Smart ไหวพริบและการตัดสินใจในการเล่น และ Commitment ความทุ่มเทและทัศนคติ
หากเยาวชนคนไหนมีศักยภาพโดดเด่นก็จะได้รับการดึงตัวเข้ามาในโครงการ Talent ID และบรรจุชื่อลงในฐานข้อมูลทีมชาติ เพื่อติดตามดูพัฒนาการ พร้อมเปิดโอกาสให้ได้เข้ามาร่วมฝึกซ้อมกับทีมงานของสมาคม และเมื่อทีมชาติมีโปรแกรมแข่งขันก็จะถูกเรียกมาเข้าแคมป์เพื่อดูฝีเท้า
พร้อมยังมีโปรแกรมสำหรับเด็กอายุ 6-12 ปีโดยเฉพาะ คือ Grassroots Football จัดกิจกรรมฝึกสอนฟุตบอลในระดับเริ่มต้น โดยมุ่งเน้นให้เด็กได้เรียนฟุตบอลแบบไม่ซับซ้อนและให้เด็กได้สนุกสนาน ไม่แบ่งแยกอายุ เชื้อชาติ สีผิว เพื่อให้ทุกคนสามารถเล่นฟุตบอลร่วมกันได้ ด้วยความมีอิสระและความคิดสร้างสรรค์อย่างเท่าเทียมกัน ตามปรัชญา “Football for everyone”
ไม่เพียงแต่วางรากฐานในการพัฒนานักเตะตั้งแต่ระดับเยาวชนเท่านั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลยังเล็งเห็นถึงการพัฒนาบุคลากรในด้านต่าง ๆ ที่ต้องก้าวไปพร้อมกันเพื่อความยั่งยืน โดยเฉพาะการยกระดับโค้ชฟุตบอลไทยให้ได้มาตรฐานระดับโลก
จึงเป็นที่มาของการเปิดหลักสูตรการเรียนผู้ฝึกสอน โดยได้การรับรองเทียบเท่า AFC License ภายใต้หลักสูตรที่คิดค้นและพัฒนาให้เหมาะสมกับฟุตบอลในไทยโดยเฉพาะ ทั้งในรูปแบบ Online และ Offline เพื่อสร้างผู้ฝึกสอนที่มีความสามารถตั้งแต่ระดับพื้นฐาน เยาวชน สมัครเล่น จนถึงระดับอาชีพ
ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรม Academy Visit ทั่วประเทศ เพื่ออบรมเรื่องการทำใบอนุญาต Academy Licensing พร้อมเผยแพร่แบบฝึกขั้นพื้นฐานที่เหมาะสมให้แก่ผู้ฝึกสอนในแต่ละท้องถิ่นเพื่อนำไปประยุกต์ให้เหมาะสม ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในกระบวนการยกระดับอคาเดมี พัฒนาคุณภาพและความเป็นมืออาชีพของอคาเดมีให้สูงขึ้น
โครงการ GROW TOGETHER จึงเป็นโครงการที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ทีมชาติไทยได้มีเจอนักฟุตบอลที่มีคุณภาพและเจอเพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ทั่วประเทศได้มากขึ้น พร้อมนำพวกเขาเหล่านั้นเข้าสู่ระบบ ผ่านกระบวนการฝึกฝนอย่างถูกวิธีตั้งแต่รากหญ้าจนส่งต่อถึงการเป็นอาชีพ เพื่อให้ทีมชาติไทยได้คัดนักกีฬาสู่ทัพช้างศึกอย่างมีมาตรฐานและต่อเนื่อง
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างฟุตบอลไทยให้แข็งแกร่งตั้งแต่ระดับรากหญ้าต่อไป ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญที่จะช่วยพัฒนาฟุตบอลไทยให้ก้าวต่อไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน ก่อนที่ดอกผลอันสวยงามจะเบ่งบานให้แฟนฟุตบอลได้ชื่นใจในอนาคตอันใกล้นี้
ฟีฟ่าคองเกรส 2024