ประเทศไทย จากเจ้าภาพฟุตซอลโลก สู่การเป็นเจ้าภาพฟีฟ่า คองเกรส

ประเทศไทย เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานฟีฟ่า คองเกรส ครั้งที่ 74 ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 นี้ และนับเป็นครั้งที่ 3 สำหรับประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพจัดอีเวนท์สำคัญของฟีฟ่า ซึ่งครั้งล่าสุดก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือน ในการแข่งขันฟุตซอลโลก 2012 

ประเทศไทย เตรียมเปิดประตูต้อนรับโลกฟุตบอลอีกครั้ง ในการเป้นเจ้าภาพจัดการประชุม ฟีฟ่า คองเกรสครั้งที่ 74 ที่กรุงเทพฯ ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ซึ่งนี้ไม่ใช่เรื่องบัลงเอิญที่ ชาติจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพ จัดงานอันทรงเกียรตินี้

โดย จานนี อินฟานติโก้ ได้กล่าวเมื่อเดือนกันยายน 2567 ที่ผ่านมา หลังจากที่ประชุมกับ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ว่า "ประเทศไทย ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นเจ้าภาพที่ยอดเยี่ยม รวมถึงผู้ที่เข้าร่วมงานนี้ทุกคน ต่างมีความกระตือรือร้น ในการยกระดับเกมของพวกเขาให้เดินหน้าต่อไปทั้งในและนอกสนาม"

ประเทศไทย ได้แสดงศักยภาพการเป็นเจ้าภาพในอีเวนต์ของฟีฟ่า ครั้งแรกในปี 2542 กับการแข่งขันฟุตซอลหญิงชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าจะจดจำ รวมถึงในการแข่งขันที่ยากจะลืมเลือนอย่าง ฟุตซอลโลก ในปี 2012 ที่ทัวร์นาเมนต์นี้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการจัดการแข่งขันกีฬาของประเทศไทย

สุทธิพร บุญยะพุกกะนะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายประสานงานกล่าวว่า "ทุกครั้งที่ไทยลงเล่น สนามจะมีแฟนบอลเข้ามาเต็มความจุ ไม่ว่าจะแข่งขันในกรุงเทพหรือที่อื่นๆ บรรยากาซที่ออกมาก็สุดยอดมาก แฟนบอลต่างสนับสนุนทีม และการแข่งขันก็สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก ทุกคนซ้อมกันอย่างหนักในทัวร์นาเมต์นั้น หลังจากที่ปี 2000-2008 ทีมไม่สามารถเข้ารอบน็อคเอาท์ได้ แต่ในปี 2012 ที่เป็นเจ้าภาพ ทุกคนทุ่มเทต่อหน้าแฟนบอลจนสามารถผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ได้เป็นครั้งแรก"

ชัดเจนว่าฟุตซอลโลก 2012 ถือเป็นช่วงเวลาเวลาสำคัญของฟุตซอลไทย ที่ทำให้ช้างศึกโตีะเล็ก ได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตซอลโลก มาอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นกีฬายอดนิยม

โดย มิเกล โรดรีโก้ เฮดโค้ชฟุตซอลทีมชาติไทย กล่าวว่า "ด้วยความนิยมดังกล่าวทำให้ ฟุตซอลมีการปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างต่อเนื่องจนส่งผลต่อทีมชาติ เรามีการพัฒนาฟุตซอลมาอย่างต่อเนื่อง ประเทศไทยมีความเชื่อมั่นในกีฬาฟุตซอล ที่นี่มีลีกอาชีพ ที่รองรับผู้เล่นจำนวนมาก ทำให้การเลือกนักเตะมาติดทีมชาติเป็นเรื่องที่ยากมากในแต่ละทัวร์นาเมนต์"

"ตัวผมเคยคุมทีมมาแล้วครั้งหนึ่งในช่วงปี 2016-2017 และกลับมาอีกครั้ง และเป้าหมายคือการเข้ารอบฟุตซอลโลก 2024 ที่อุซเบกิสถาน พวกเขาขอให้ผมพาทีมไปฟุตซอลโลก และสร้างประวัติศาสตร์เข้ารอบแปดทีมสุดท้ายเป็นครั้งแรก มันเป็นเรื่องเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย แต่ผมก็พร้อมรับความท้าทาย ทุกยอ่างเป็นโบนัส และผมก็พาทีมชาติไทยเข้ารอบชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์เอเชียที่เราเป็นเจ้าภาพ และนั่นแปลว่าผมทำไดตามสัญญา"

"สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จะมีการจัดเกมระดับนานาชาติอีก 1-2 ทัวร์นาเมนต์ เพื่อห้มีการเตรียมทีมที่เหมาะสมและสอดคล้องกับปฏิทินของฟุตซอล ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากในการพัฒนาทีมฟุตซอล"

ประเทศไทยแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาฟุตซอลอย่างชัดเจน หนึ่งในนั้นคือการก่อสร้างศูนย์ปฏิบัติการที่อยู่ในพื้นที่สำนักงาน ที่เพิ่งสร้างเสร็จไปเมื่อเดือนมีนาคมปีก่อน ซึ่งเกิดการเงินสนับสนุนในโครงการ ฟีฟ่า ฟอร์เวิร์ด มูลค่า 2.6 ล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ และเป็นสนามฝึกซ้อมหลักของทีมชาติไทย ในช่วงก่อนการแข่งขันฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา

มิเกล โรดรีโก้ กล่าวว่า "เป็นสถานที่ที่ยอดเยี่ยมและสมบูรณ์ ซึ่งทำให้เราสามารถวางแผนตารางเวลาซ้อมได้แบบไม่มีข้อจำกัด มีห้องแต่งตั้งที่สะดวกสบาย, ห้องวีดีโอ ห้องประชุม ผมต้องขอบคุณฟีฟ่า และสมาคมฯ ในการลงทุนในกีฬาฟุตซอล ในการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวก จนเราผ่านเขารอบชิงชนะเลิศ ชิงแชมป์เอเชีย และได้ไปฟุตซอลโลก ที่อุซเบกิสถาน ซึ่งเป็นเป้าหมายของเรา นีต่คือแผนระยะยาวของทุกสมาคมที่ต่างต้องการเล่นฟุตบอลโลก ที่จะนำมาซึ่งเรื่องการเงิน, ชื่อเสียง, การรับรู้ และสถานะของเราในระดับนานาชาติ"

"มิตรภาพของผมกับ อดิศักดิ์ เบ็ญจศิริวรรณ และ ต่อประเทศนี้มันยอดเยี่ยมมาก มันเป็นเกียรติ เรากำลังพูดคุยกันและผมแทบไม่ได้เห็นถึงปัญหาอะไร การวางมือกับทีมชาติไทย แปลว่าผมได้ทำสิ่งนั้นกับสิ่งที่ผมรัก สถานที่ที่ผมรัก และวางแผนจะใช้เวลาอนาคตหลังจากวางมือด้วยความสุข และท่ามกลางมิตรภาพมากมาย"