สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 15 ประจำฤดูกาล 2568/69

เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 15 ประจำฤดูกาล 2568/69 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน 

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีไลออน ซิกส์ ลีกหนึ่ง วันที่ 7 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรพีที ประจวบ เอฟซี พบ สโมสรลําพูน วอริเออร์ (สโมสรลําพูน วอริเออร์ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 90+7 ผู้เล่นหมายเลข 41 นายพันธมิตร ประพันธ์ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ล้มลงในเขตโทษ หลังถูกผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. MG MG LWIN สโมสรลำพูน วอริเออร์ พยายามเข้าชิงบอลจากด้านหลัง ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ในจังหวะแรก แต่ VAR เรียกให้มาตรวจสอบ ก่อนที่ผู้ตัดสินจะกลับคำตัดสิน ให้เป็นการฟาวล์และให้เป็นจุดโทษ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า หัวเข่าของผู้เล่นหมายเลข 7 Mr.MG MG LWIN สโมสรลำพูน วอริเออร์ ไม่ได้มีการสัมผัสกับส้นเท้าของผู้เล่นหมายเลข 41 นายพันธมิตร ประพันธ์ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี แต่อย่างใด 

- ผลพิจารณา
นายวรินทร สัสดี ผู้ตัดสิน และนายศิวกร ภูอุดม ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากหัวเข่าซ้ายของผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. MG MG LWIN สโมสรลำพูน วอริเออร์ สัมผัสและกระแทกไปบริเวณส้นเท้าของผู้เล่นหมายเลข 41 นายพันธมิตร ประพันธ์ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ทำให้การเคลื่อนที่ของเท้าขวาของผู้เล่นหมายเลข 41 นายพันธมิตร ประพันธ์ สโมสรพีที ประจวบ เอฟซี ซึ่งกำลังก้าวไปด้านหน้าสะบัดออกด้านข้างอย่างผิดธรรมชาติ และส่งผลให้ผู้เล่นคนดังกล่าวล้มลงในเขตโทษ แม้ผู้เล่นหมายเลข 7 Mr. MG MG LWIN สโมสรลำพูน วอริเออร์ จะไม่มีเจตนา แต่ถือว่าขาดความระมัดระวัง (Careless) ในการเข้าแย่งบอล ซึ่งเข้าลักษณะความผิดตามกติกาข้อ 12 “Fouls and Misconducts” การขัดขา (Tripping an Opponent) การที่ผู้ตัดสินไปตรวจสอบ VAR แล้วตัดสินให้เป็นการเตะโทษ ณ จุดเตะโทษ จึงถือว่าตัดสินถูกต้อง

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีล ไฟว์ ลีกสอง วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด พบ สโมสรนครปฐม ยูไนเต็ด (สโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 14 ก่อนที่สโมสรเชียงใหม่ ยูไนเต็ด จะเสียจุดโทษจากจังหวะแฮนด์บอลนั้น ผู้เล่นหมายเลข 38 นายภูมิพัฒน์ กันทะเนตร สโมสรนครปฐม ยูไนเต็ด อาจจะยืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า โดยผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ได้ยกธงแจ้งล้ำหน้าแล้ว ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า VAR ไม่ได้มีการตรวจสอบและแสดงภาพตีเส้นล้ำหน้าเพื่อยืนยันผลการตัดสิน ก่อนที่จะตรวจสอบจังหวะแฮนด์บอลตามลำดับ 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายสงกรานต์ บุญมีเกียรติ ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 สัปดาห์ เนื่องจากจังหวะล้ำหน้าเป็นเหตุการณ์ลำดับแรกในการครอบครองบอลในเกมรุก (APP) และมีผลโดยตรงต่อเหตุการณ์แฮนด์บอลที่เกิดขึ้นภายหลัง การละเลยตรวจสอบเหตุการณ์แรกอย่างละเอียดถี่ถ้วน และเร่งรีบสรุปข้อเท็จจริง จึงทำให้กระบวนการตรวจสอบขาดความสมบูรณ์ และไม่สามารถรับรองความถูกต้องของคำแนะนำที่แจ้งให้ผู้ตัดสินทราบ ดังนั้น หากมีการทำผิดกติกาเกิดขึ้นในการครอบครองบอลในเกมรุก (APP) ก่อนเหตุการณ์ที่นำไปสู่การให้จุดโทษ เหตุการณ์หลังจะถือเป็นโมฆะโดยทันที เมื่อ VAR ไม่ได้ตรวจสอบเหตุการณ์แรกให้สิ้นกระแสความตามหลักวิธีการที่กำหนดไว้ ก็ย่อมมีผลให้คำแนะนำเกี่ยวกับเหตุการณ์แฮนด์บอลขาดความน่าเชื่อถือ และอาจทำให้ผู้ตัดสินมีโอกาสตัดสินผิดพลาด เมื่อพิจารณาตามข้อเท็จจริงและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) มีความบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ ในส่วนของการตรวจสอบที่ไม่ละเอียดถี่ถ้วน ทั้งการไม่ปฏิบัติตามลำดับขั้นตอน ส่งผลให้ผู้ตัดสินได้รับข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน และไม่ถูกต้องตามหลักการของ (VAR Protocol) ที่กำหนด 

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรสมุทรสงคราม ซิตี้ พบ สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด (สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 10 ผู้เล่นหมายเลข 88 นายราชันย์ กันจินะ สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด ใช้ลำตัวบังไม่ให้ผู้เล่นหมายเลข 20 นายกุลวัต หัสถาพันธ์ สโมสรสมุทรสงคราม ซิตี้ เข้าถึงบอลภายในเขตโทษ ผู้ตัดสินให้เป็นฟาวล์และจุดโทษกับสโมสรสมุทรสงคราม ซิตี้ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวเป็นเพียงการแย่งชิงบอลตามปกติในการเล่น ไม่ควรเป็นการฟาวล์

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายยุทธพงศ์ ริยะสาร ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 20 นายกุลวัต หัสถาพันธ์ สโมสรสมุทรสงคราม ซิตี้ (ฝ่ายรุก) ได้เตะบอลห่างจากตัว ก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 88 นายราชันย์ กันจินะ สโมสรนนทบุรี ยูไนเต็ด (ฝ่ายรับ) จะวิ่งเข้ามาในตำแหน่งที่ได้เปรียบกว่า ทั้งในด้านระยะห่างจากลูกบอล และโอกาสในการครอบครองบอล โดยผู้เล่นฝ่ายรับอยู่ในตำแหน่งที่เหนือกว่าในจังหวะแย่งชิง เมื่อพิจารณาจังหวะการเบียดแย่ง ผู้เล่นฝ่ายรุกเข้าแย่งบอลในสภาพที่เสียเปรียบเชิงตำแหน่งและการเข้าปะทะจึงทำให้ล้มลง จากความเสียเปรียบของตนเอง ไม่ได้เกิดจากการทำผิดกติกาของผู้เล่นฝ่ายรับ ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินให้เป็นการฟาวล์และให้เตะโทษ ณ จุดเตะโทษ จึงถือว่าเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง 

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรเอฟซี ยะลา พบ สโมสรนรา ยูไนเต็ด (สโมสรนรา ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 65 ผู้เล่นหมายเลข 62 Mr. GROSSI DE ARAUJO REIS LUCAS สโมสรนรา ยูไนเต็ด พยายามจะทุ่มเร็ว แต่ถูกผู้เล่นหมายเลข 21 นายธีรภัทร เกษโสภา สโมสรเอฟซี ยะลา ใช้มือดึงเสื้อ ผู้ตัดสินเป่าหยุดการเล่น แต่ไม่ได้มีการลงโทษใด ๆ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวผู้ตัดสินควรลงโทษผู้เล่นหมายเลข 21 นายธีรภัทร เกษโสภา สโมสรเอฟซี ยะลา ด้วยการให้ใบเหลืองที่ 2 และตามด้วยใบแดง  

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายเจริญ นวลบุญ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 สัปดาห์ เนื่องจากการกระทำของผู้เล่นหมายเลข 21 นายธีรภัทร เกษโสภา สโมสรเอฟซี ยะลา ได้ใช้มือดึงเสื้อ จนทำให้ผู้เล่นหมายเลข 62 Mr. GROSSI DE ARAUJO REIS LUCAS สโมสรนรา ยูไนเต็ด ล้มลง เป็นการรบกวนและขัดขวางการเริ่มเล่นใหม่ของฝ่ายตรงข้าม ทั้งยังทำให้คู่แข่งขันไม่สามารถทุ่มบอลเล่นเร็วได้ การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำผิดกติกาในขณะที่ลูกบอลอยู่นอกการเล่น และเข้าลักษณะความผิดฐาน ชะลอการเริ่มเล่นใหม่ (Delaying the Restart of Play) ซึ่งตามกติกาต้องถูกลงโทษด้วยการคาดโทษ (ใบเหลือง) การที่ผู้ตัดสินไม่ดำเนินการคาดโทษ (ใบเหลือง) ผู้เล่นหมายเลข 21 นายธีรภัทร เกษโสภา สโมสรเอฟซี ยะลา จึงถือว่าเป็นการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 74 ผู้เล่นหมายเลข 8 นายซุลกิบลี จิสวัสดิ์ สโมสรเอฟซี ยะลา ล้มลงในเขตโทษ หลังถูกผู้เล่นหมายเลข 26 นายภูมิพัฒน์ สราพิสิทธิ์ภัทร สโมสรนรา ยูไนเต็ด พยายามเข้าชิงบอลและมีการใช้มือสัมผัสตัวเล็กน้อย ผู้ตัดสินให้เป็นการฟาวล์และให้จุดโทษ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวเป็นการแย่งชิงบอลตามปกติ โดยการสัมผัสเพียงเล็กน้อยนั้น ไม่ได้มีผลต่อการเล่นของผู้เล่นคนดังกล่าว

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายเจริญ นวลบุญ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 26 นายภูมิพัฒน์ สราพิสิทธิ์ภัทร สโมสรนรายูไนเต็ด ไม่ได้มีการใช้มือผลัก หรือกระแทกตามที่ผู้ตัดสินเข้าใจ แต่เป็นเพียงการยกมือขึ้นเบียดตามการเคลื่อนที่ปกติ ซึ่งการสัมผัสดังกล่าว ไม่ส่งผลกระทบต่อการล้มลงของผู้เล่นหมายเลข 8 นายซุลกิบลี จิสวัสดิ์ สโมสรเอฟซี ยะลา แต่อย่างใด ดังนั้น การที่ผู้ตัดสินพิจารณาว่าเป็นการใช้มือกระแทกบริเวณลำตัว และให้เป็นการฟาวล์ พร้อมทั้งให้เตะโทษ ณ จุดโทษ จึงถือว่าเป็นคำตัดสินที่ไม่ถูกต้อง 

5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 9 พฤศจิกายน 2568 คู่ระหว่างสโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ พบ สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด (สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 30 ขณะที่ผู้เล่นหมายเลข 19 Mr. TOMOHIRO KAJIYAMA สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด พยายามยิงประตูในเขตโทษ ได้ถูกผู้เล่นหมายเลข 5 นายกิตติธัช ประนิธิ สโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ เข้าขัดขวางและใช้ขาขวาเตะใส่ขาของผู้เล่นคนดังกล่าว แต่ผู้ตัดสิน ไม่ได้เป่าฟาวล์ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า จังหวะดังกล่าวเป็นการฟาลว์ และควรเป็นจุดโทษ

- ผลพิจารณา
นายวีระพงษ์ ไชยสุข ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากทิศทางการเตะของผู้เล่นหมายเลข 19 Mr. TOMOHIRO KAJIYAMA สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด (ฝ่ายรุก) และทิศทางการเหยียดเท้าของผู้เล่นหมายเลข 5 นายกิตติธัช ประนิธิ สโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ (ฝ่ายรับ) เท้าของทั้งสองฝ่ายเคลื่อนที่ไปในทิศทางเดียวกัน มุ่งเข้าเล่นลูกบอล และไม่มีลักษณะการกระทำที่เป็นอันตราย หรือส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนที่ของฝ่ายตรงข้าม นอกจากนี้ ระดับความสูงของเท้าผู้เล่นฝ่ายรุก อยู่เหนือเท้าของผู้เล่นฝ่ายรับ ตามทิศทางการเล่นปกติของการแย่งบอลลอยตัว การเล่นดังกล่าวเป็นการแย่งบอลตามธรรมชาติของเกม ไม่มีการกระทำผิดกติกา การที่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ จึงถือว่าเป็นการตัดสินที่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 90+4 ผู้เล่นหมายเลข 26 นายศรัณย์ภัทร ศรีรัตน์ สโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ เตะเข้าลำตัวของผู้เล่นหมายเลข 11 นายศิวา พิกุลหอม สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด และในจังหวะต่อเนื่องผู้เล่นหมายเลข 28 นายศุภกรณ์ นุชวิจิตร สโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ ใช้ลำตัวปะทะใส่ผู้เล่นหมายเลข 19 Mr. TOMOHIRO KAJIYAMA สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด แต่ผู้ตัดสิน กลับไม่ได้เป่าให้ฟาวล์ทั้งสองจังหวะ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้เล่นทั้งสองของสโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ กระทำผิดกติกาชัดเจน 

- ผลพิจารณา
นายวีระพงษ์ ไชยสุข ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้ตัดสินได้ให้ใบเหลืองแก่ผู้เล่นหมายเลข 26 นายศรัณย์ภัทร ศรีรัตน์ สโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ ย้อนหลังสำหรับเหตุการณ์แรก ภายหลังลูกบอลอยู่นอกการเล่น โดยผู้เล่นคนดังกล่าวกระทำผิดกติกาด้วยการชน และสกัดกั้นเข้าเล่นบอล โดยขาดการไตร่ตรองยั้งคิด (Reckless) แต่ที่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาวล์ในขณะเกิดเหตุ เนื่องจากให้สิทธิทีมที่ครอบครองบอลเล่นต่อ (Applying Advantage) ส่วนเหตุการณ์ถัดมา เป็นการปะทะกัน เนื่องจากแรงเฉื่อยของผู้เล่นหมายเลข 19 Mr. TOMOHIRO KAJIYAMA สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด ที่ไม่สามารถหยุดหรือหลบหลีกได้ทัน หลังจากผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามเตะบอลออกไปก่อน จึงไม่เข้าลักษณะเป็นการทำผิดกติกา ดังนั้น ทั้งสองเหตุการณ์ ผู้ตัดสินได้ตัดสินถูกต้องแล้ว ตามหลักกติกาและการพิจารณาที่เหมาะสม