23 May 2023
9 วันที่ผ่านมา
เว็บไซต์สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือ AFC ประกาศการจัดลำดับ AFC Club Competition Ranking ประจำฤดูกาล 2022 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยโดยในฤดูกาลนี้ ประเทศไทยได้คะแนนรวมอยู่ที่ 49.470 ขยับขึ้นอันดับ 8 ของทวีปเอเชีย และยังรั้งอันดับ 4 ของเอเชียฝั่งตะวันออก เป็นรองเพียงลีกฟุตบอลอาชีพของ สาธารณรัฐประชาชนจีน, สาธารณรัฐเกาหลี และ ญี่ปุ่น
สำหรับการคิดคะแนนในรอบนี้เริ่มคิดคะแนนรวมตั้งแต่ฤดูกาล 2014 จนถึง 2022 โดยจะคิดทั้งคะแนนของลีกภายในประเทศและผลการแข่งขันที่ AFC จัดขึึ้น ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วทำให้ประเทศไทยได้ทั้งสิ้น 49.470 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 9 ขึ้นสู่อันดับที่ 8 ของเอเชีย
ดูผลการจัดอันดับทั้งหมดได้ที่นี่ https://www.the-afc.com/en/more/afc_ranking.html
และในฤดูกาล 2024/25 สมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชียหรือ AFC ได้มีการปรับโครงสร้างและรูปแบบการแข่งขันจากเดิมที่มีทั้งหมด 2 ระดับ (AFC Champions League และ AFC Cup) ด้วยการแบ่งระดับการแข่งขันใหม่ออกเป็นทั้งหมด 3 ระดับเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและการแข่งขันให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น โดยให้สิทธิแต่ละประเทศเข้าร่วมการแข่งขันโดยยึดตาม AFC Club Competitions 2024/25 Slot Allocation (East) อ้างอิงจาก AFC Club Competition Ranking ประจำฤดูกาล 2022
โดยสิทธิในการเข้าร่วมการแข่งขันของไทยลีก ที่ได้คะแนนเป็นลำดับที่ 4 ของเอเชียฝั่งตะวันออก จะได้สิทธิในการเข้าร่วมการแข่งขัน 1+1+1 ทีม แบ่งเป็น
โควต้ารอบ League Stage สำหรับการแแข่งขันในระดับ Tier 1 จำนวน 1 ทีม
โควต้ารอบ Preliminary Stage สำหรับการแข่งขันในระดับ Tier 1 จำนวน 1 ทีม
โควต้ารอบ Group Stage สำหรับการแข่งขันในระดับ Tier 2 จำนวน 1 ทีม
รูปแบบการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรเอเชีย ที่จะเริ่มต้นรูปแบบใหม่ในฤดูกาล 2024/25 มีการปรับเปลี่ยนโดยแบ่งเป็น 3 ระดับดังนี้
Tier 1 จำนวน 24 ทีม (ELITE Club Championship)
โดยในการแข่งขันระดับ Tier 1 จะแบ่งตัวแทนเป็น โซน WEST 12 ทีม และ โซน EAST 12 ทีม โดยแต่ละทีมที่เข้าร่วมการแข่งขัน จะได้ทำการแข่งขันทั้งหมด 8 นัด โดยจะเป็นในรูปแบบคละทีมไม่ซ้ำกัน และได้เป็นทีมเหย้า 4 นัด และเป็นทีมเหย้า 4 นัด และจะคัดเลือกทีมที่ผลงานที่ดีที่สุด 8 อันดับแรกของทั้ง 2 กลุ่ม รวม 16 ทีม ผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายจะแข่งกันแบบเหย้า-เยือน โดยรอบก่อนรองชนะเลิศจนถึงรอบชิงชนะเลิศจะแข่งขันแบบนัดเดียว โดยใช้สนามกลาง
Tier 2 จำนวน 32 ทีม
การแข่งขันระดับ Tier 2 จะมีทีมทั้งหมด 32 ทีมที่เข้าร่วม และจะแบ่งออกเป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งขันแบบพบกันหมดในกลุ่ม (เหย้า-เยือน) นำทีมแชมป์กลุ่ม และรองแชมป์กลุ่ม ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ ในรอบ 16 ทีม, รอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศ จะแข่งขันทั้งหมด 2 นัดแบบเหย้าเยือน ขณะที่รอบชิงชนะเลิศจะแข่งขันแบบนัดเดียวจบ
Tier 3 จำนวน 20 ทีม
การแข่งขันระดับ Tier 3 จะมี 20 ทีม เข้าร่วม และแบ่งเป็น 5 กลุ่ม กลุ่มละ 4 ทีม แข่งแบบพบกันหมดแต่เพียงนัดเดียว ไม่มีเหย้า-เยือน โดยใช้สนามกลางทำการแข่งขัน และโดยจะนำแชมป์กลุ่มของฝั่งตะวันตกจำนวน 3 ทีม อันดับ 2 ที่ดีที่สุดของกลุ่มฝั่งตะวันตก แชมป์กลุ่มฝั่งตะวันออกจำนวน 2 ทีม รองแชมป์กลุ่มฝั่งตะวันออกจำนวน 2 ทีม รวมทั้งสิ้น 8 ทีม ผ่านเข้ารอบก่อนรองชนะเลิศ โดยที่รอบก่อนรองชนะเลิศ และรอบรองชนะเลิศ จะแข่งขันแบบเหย้า-เยือน ก่อนจะมาตัดสินกันในรอบชิงชนะเลิศ แบบนัดเดียวจบ
* ทีมที่ตกรอบรอบคัดเลือก จาก Tier 1 จะได้โอกาสมาเล่นใน Tier 2 เช่นเดียวกับทีมที่ตกรอบจากรอบคัดเลือก จาก Tier 2 จะได้โอกาสมาเล่นใน Tier 3
ไทยลีก ขอบคุณสโมสรสมาชิกทุกสโมสรที่ยังคงเดินหน้าเพื่อสร้างบรรทัดฐานและความมั่นคงของฟุตบอลภายในประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับและเพิ่มสิทธิในการเข้าร่วมฟุตบอลรายการสำคัญระดับทวีปต่อไปในอนาคต
National Team Men
01 June 2023
National Team Men
31 May 2023
สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประกาศรายชื่อ 23 นักฟุตบอลชายทีมชาติไทย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันฟุตบอลอุ่นเครื่อง ตามปฏิทิน ฟีฟ่า เดย์ ประจำเดือนมิถุนายน ที่มีโปรแกรมจะออกไปเยือน ไต้หวัน และ ฮ่องกง ในวันที่ 16 และ 19 มิถุนายน ตามลำดับ
Development
31 May 2023
ตามที่ ฝ่ายฝึกอบรมและพัฒนาเยาวชน ร่วมกับ ฝ่ายพัฒนาฟุตบอลหญิง สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการอบรมสำหรับผู้ฝึกสอน, ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน ผู้หญิงและผู้ชายจากสโมสรสมาชิกระดับ ไทย วีเมนส์ลีก ฤดูกาล 2023 ทั้งระดับ ดิวิชั่น 1 และ 2 รวมไปถึง นักฟุตบอลหญิงทีมชาติไทยทั้งอดีตและปัจจุบัน ในหลักสูตร “AFC C Diploma” ครั้งที่ 2/2566 ระหว่างวันที่ 6 – 21 มีนาคม 2566 ณ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม โรงเรียนกีฬาจังหวัดชลบุรี