สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 24 ประจำฤดูกาล 2567/68

เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 24 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ “รีโว่ ไทยลีก” ไทยลีก 1 วันที่ 15 มกราคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร พีที ประจวบ เอฟซี พบ สโมสร สุโขทัย เอฟซี (สโมสรสุโขทัย เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 31 ผู้เล่นหมายเลข 10 Mr. JOHN BAGGIO MARTIAL RAKOTONOMENJANAHARY สโมสร สุโขทัย เอฟซี ได้เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษของสโมสร พีที ประจวบ เอฟซี โดยในขณะนั้นผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. MATEUS LIMA CRUZ สโมสร สุโขทัย เอฟซี ได้เบียดแย่งลูกบอลกับผู้เล่นหมายเลข 14 นายพีฬาวัช อรรคธรรม สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี และจังหวะสุดท้ายลูกบอลไปสัมผัสโดนมือของผู้เล่นหมายเลข 14 นายพีฬาวัช อรรคธรรม สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี ซึ่งผู้ตัดสินไม่ได้มีการเป่าฟาล์วแฮนด์บอล รวมทั้งผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ไม่ได้เรียกผู้ตัดสินมา (on field review) แต่อย่างใด

- ผลพิจารณาโทษ
พฤติกรรมของผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. MATEUS LIMA CRUZ สโมสร สุโขทัย เอฟซี ได้วิ่งเข้าไปเบียดชนด้านหลังของผู้เล่นหมายเลข 14 นายพีฬาวัช อรรคธรรม สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี ทำให้มือของผู้เล่นหมายเลข 14 นายพีฬาวัช อรรคธรรม สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี ไปสัมผัสที่ลูกบอลในลักษณะที่เป็นอุบัติเหตุและแขนของผู้เล่นหมายเลข 14 นายพีฬาวัช อรรคธรรม สโมสร พีที ประจวบ เอฟซี ก็อยู่ในตำแหน่งที่เป็นปกติของการเล่น ไม่มีการเคลื่อนมือหรือแขนไปหาลูกบอลแต่อย่างใด ถือว่าไม่เป็นการกระทำผิด ตามกติกาข้อ 12 Fouls and Misconduct หน้า 106 Handling the ball “ไม่ทุกครั้งที่มือหรือแขนสัมผัสลูกบอลแล้วจะเป็นการกระทำผิด”  ซึ่งนายนพภเดช เมืองงาม ผู้ตัดสิน ไม่มีการเป่าฟาล์วแต่อย่างใด ถือว่าตัดสินได้ถูกต้อง และนายชัยฤกษ์ งามสม ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ได้ทำการตรวจสอบแล้ว เห็นตามที่ผู้ตัดสินแจ้งว่าไม่มีการกระทำผิดเกี่ยวกับการใช้มือเล่นลูกบอล จึงยืนยันตามคำตัดสิน ถือว่าปฏิบัติหน้าที่ได้ถูกต้อง ตามหลักการของ VAR Protocol

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ “เมืองไทย ลีก” ไทยลีก 2 วันที่ 18 มกราคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร นครศรี ยูไนเต็ด พบ สโมสร จันทบุรี เอฟซี  (สโมสร จันทบุรี เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 90+6 ผู้เล่นหมายเลข 24 นายนิราศ บุหง่า สโมสร นครศรี ยูไนเต็ด ได้เข้าปะทะโดยการเตะเข้าไปที่ขาพับหลังด้านบนของผู้เล่นหมายเลข 91 Mr. GIVANILTON MATINS FERREIRA สโมสร จันทบุรี เอฟซี ซึ่งผู้ตัดสินได้เป่าฟาล์วและทำการคาดโทษ (ใบเหลือง) ให้กับผู้เล่นหมายเลข 24 นายนิราศ บุหง่า สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด ทางสโมสร จันทบุรี เอฟซี เห็นว่า การเข้าปะทะลักษณะเช่นนี้เป็นการเจตนาทำร้ายคู่แข่งขัน ผู้เล่นคนดังกล่าวควรที่จะได้รับการไล่ออก (ใบแดง) จากเหตุการณ์นี้ 

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษนายณัฐวุฒิ นามม่วง ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 24 นายนิราศ บุหง่า สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด ได้เข้ามาเจตนาเตะที่ขาของผู้เล่นหมายเลข 91 Mr.GIVANILTON MATINS FERREIRA สโมสรจันทบุรี เอฟซี ด้วยความรุนแรง ถือเป็นการกระทำผิดกติกาอย่างร้ายแรง (Serious foul play) เพราะกระทำผิดขณะเข้าแย่งชิงลูกบอล ผู้ที่กระทำผิดจะต้องถูกไล่ออก (ใบแดง) ตามกติกาข้อ 12 Fouls and Misconduct หน้า 113-114

2) ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 24 นายนิราศ บุหง่า สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.19 ประกอบกับ ข้อ 1.1.2 

(3) ใบแดง (Serious foul play) ถูกพักการแข่งขัน 1 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ “เมืองไทย ลีก” ไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสามปรับเงิน 6,666 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 1.19 ในกรณีที่นักกีฬาฟุตบอลกระทำความผิดในระหว่างการแข่งขัน แต่ไม่ได้ถูกคาดโทษ (ได้รับใบเหลือง) หรือไม่ได้ถูกให้ออกจากการแข่งขัน (ได้รับใบแดง) คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท สามารถพิจารณาลงโทษการกระทำดังกล่าวได้ โดยนำเกณฑ์การกำหนดโทษตามข้อ 1.1 มาบังคับใช้โดยอนุโลม หรือหากเป็นการกระทำที่เข้าองค์ประกอบของระเบียบข้อใดข้อหนึ่งโดยเฉพาะ ก็ให้พิจารณาลงโทษตามระเบียบข้อดังกล่าวได้ แต่หากอัตราโทษตามระเบียบข้อเฉพาะนั้น อัตราโทษน้อยกว่าโทษตามข้อ 1.1 ให้คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท มีอำนาจกำหนดโทษตามข้อ 1.1 ที่มีอัตราโทษสูงกว่าได้

ข้อ 1.1 นักกีฬาฟุตบอลถูกคาดโทษ (ได้รับใบเหลือง) หรือถูกให้ออกจากการแข่งขัน (ได้รับใบแดง) จะถูกห้ามไม่ให้ลงแข่งขัน และถูกปรับเงินตามเกณฑ์

ข้อ 1.1.2 ถูกผู้ตัดสินให้ออกจากการแข่งขัน (ได้รับใบแดง) ด้วยการกระทำผิด 

(3) เล่นผิดกติกาอย่างร้ายแรง (Serious Foul Play) เช่น เล่นรุนแรงเกินกว่าเหตุในขณะที่แย่งชิงลูกบอล อันอาจนำไปสู่การบาดเจ็บของฝ่ายตรงข้าม

หากเป็นความผิดตามข้อ (3) ต้องถูกพักการแข่งขันครั้งต่อไป และปรับเงิน

                 - ครั้งที่ 1 ถูกพักการแข่งขัน 1 นัด ปรับเงิน 10,000 บาท
                 - ครั้งที่ 2 ถูกพักการแข่งขัน 2 นัด ปรับเงิน 20,000 บาท
                 - ครั้งที่ 3 ถูกพักการแข่งขัน 3 นัด ปรับเงิน 30,000 บาท
                 - ครั้งที่ 4 และครั้งต่อ ๆ ไป ถูกพักการแข่งขัน 4 นัด ปรับเงิน 40,000 บาท/ครั้ง

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการ “เมืองไทย ลีก” ไทยลีก 2 วันที่ 19 มกราคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร เกษตรศาสตร์ เอฟซี พบ สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี (สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 14 ผู้เล่นหมายเลข 15 นายสหรัฐ สนธิสวัสดิ์ สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษของสโมสร เกษตรศาสตร์ เอฟซี ให้กับผู้เล่นหมายเลข 22 Mr. YURI MARTINS ROCHA สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี โดยได้โหม่งบอลต่อให้ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. OEGE SIETSE VAN LINGEN สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี ทำประตูเข้าไปได้ แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ได้ยกธงแจ้งผู้ตัดสินว่าผู้เล่นหมายเลข 22 Mr. YURI MARTINS อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า จึงทำให้สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี ไม่ได้ประตูจากจังหวะดังกล่าว

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายเจริญ นวลบุญ ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน เนื่องจากในจังหวะที่ผู้เล่นหมายเลข 15 นายสหรัฐ สนธิสวัสดิ์ สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี จะเปิดบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ผู้เล่นหมายเลข 22 Mr. YURI MARTINS ROCHA สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี โหม่งบอลส่งต่อให้ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. OEGE SIETSE VAN LINGEN สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี ยิงประตูเข้าไปนั้น ผู้เล่นหมายเลข 22 Mr. YURI MARTINS ROCHA สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า เพราะยังมีผู้เล่นหมายเลข 47 นายอรุชา ดวงดาว สโมสร เกษตรศาสตร์ เอฟซี ที่ยืนต่ำกว่า และจากการตัดสินผิดพลาดครั้งนี้ ทำให้สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี ไม่ได้ประตู จึงมีผลต่อการแข่งขัน 

- ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่เจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันฯ
ข้อ 57. เจ้าหน้าที่การแข่งขัน ผู้ใดฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับนี้ จะถูกลงโทษ ดังนี้        

(1) ตักเตือน
(2) ภาคทัณฑ์
(3) พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 เดือน
(4) พักการปฏิบัติหน้าที่ 3 เดือน
(5) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 เดือน
(6) พักการปฏิบัติหน้าที่ 1 ปี
(7) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 ปี
(8) พักการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเวลาที่กำหนด
(9) พักการปฏิบัติหน้าที่ตลอดชีพ

การนับโทษในระหว่างฤดูกาลให้นับเฉพาะสัปดาห์ที่มีการแข่งขัน ตามปฏิทินการแข่งขันประจำฤดูกาลของสมาคมฯ ในกรณีที่สิ้นสุดฤดูกาลแข่งขันประจำฤดูกาลแล้ว ยังมีโทษติดค้างอยู่ ให้มีผลผูกพันถึงฤดูกาลถัดไป

กรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการรีโว่ ไทยลีก (ไทยลีก 1) วันที่ 24 มกราคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร การท่าเรือ เอฟซี พบ สโมสร ราชบุรี เอฟซี

- เหตุการณ์
ปรากฏข่าวในสื่อออนไลน์ กรณีผู้เล่นหมายเลข 4 นายโจนาธาร เข็มดี สโมสร ราชบุรี เอฟซี โพสต์ข้อความลง Instagram ส่วนตัว ชื่อ jkhemdee17 มีเนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน ในลักษณะที่ว่า “ทำไมกรรมการไทยลีกถึงทำพลาดบ่อยครั้งแบบนี้ทุกเกม ผมไม่เข้าใจว่าหลังจากจบเกมแต่ละเกม เราจำเป็นต้องพูดถึงความผิดพลาดของกรรมการกันบ้าง นี่เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่ที่ทำให้เราเสีย 3 คะแนน ผมยังตกใจที่กรรมการให้จุดโทษ เพราะนี่ไม่ใช่มือผม ผมใช้มือขวาของผม และคุณจะเห็นว่าผมพยายามจะบังผู้เล่นพอร์ต แต่บอลไปโดนมือของผู้เล่นการท่าเรือ ผมหวังว่าจะมีใครสักคนในเอฟเอที่จะช่วยให้กรรมการเรียนรู้และให้เข้าใจการตัดสินเพิ่มขึ้นเพื่อช่วยเหลือพวกเขา เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกในไทยลีกที่กรรมการทำผิดพลาดครั้งใหญ่แบบนี้ มันเกิดขึ้นทุกสัปดาห์”

- ผลพิจารณาโทษ
คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ได้พิจารณาจากรายงานของฝ่ายจัดการแข่งขัน คลิปและภาพเหตุการณ์โดยละเอียดรอบคอบแล้วเห็นว่า จากคลิปเหตุการณ์ถ่ายทอดสด และคลิป VAR พร้อมสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้แทนคณะกรรมการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินแล้วปรากฎว่า กรณีดังกล่าวเป็นการกระทำแฮนด์บอลของผู้เล่นหมายเลข 4 นายโจนาธาร เข็มดี สโมสรราชบุรี เอฟซี ที่ใช้มือไปสัมผัสบอลจริง และผู้ตัดสินได้มีการตรวจสอบ VAR แล้วพิจารณาให้เป็นลูกแฮนด์บอล เป็นการปฏิบัติหน้าที่ถูกต้องแล้ว ตามกติกาการแข่งขันข้อ 12 Fouls and Misconduct หน้า 106 Handling the ball  แต่ปรากฏว่าภายหลังจบการแข่งขันผู้เล่นหมายเลข 4 นายโจนาธาร เข็มดี ของสโมสร ราชบุรี เอฟซี ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านสื่อออนไลน์ทาง Instagram “jkhemdee17” มีการแชร์ข้อความดังกล่าวและเป็นข่าวที่ได้รับความสนใจจากสาธารณะ ซึ่งจากข้อความดังกล่าวข้างต้น บริบทโดยรวมบุคคลทั่วไปอ่านแล้วย่อมเกิดความเข้าใจว่าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์การทำหน้าที่ของผู้ตัดสินที่ผิดพลาด โดยข้อความที่โพสต์ดังกล่าวเป็นการบิดเบือนไม่ตรงกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น  ทั้งนี้ ผู้ตัดสินถือเป็นตัวแทนของสมาคมในการไปปฏิบัติหน้าที่ ย่อมเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ ต่อว่าสมาคมโดยตรงด้วย หากสโมสรหรือนักกีฬาฟุตบอลไม่เห็นด้วยกับการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน ก็สามารถที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสิน ตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ในระเบียบที่เกี่ยวข้องได้ การกระทำของผู้เล่นหมายเลข 4 นายโจนาธาร เข็มดี ของสโมสร ราชบุรี เอฟซี จึงเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อ ที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น  ทำให้เกิดความเสียหายแก่การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ และทำให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ของสมาคม หรือฝ่ายจัดการแข่งขัน ปรากฏจากพยานหลักฐานดังกล่าวข้างต้นชัดเจน  คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จึงมีมติเอกฉันท์ ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 4 นายโจนาธาร เข็มดี สโมสรราชบุรี เอฟซี มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.14 ปรับเงิน 50,000 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 1.14 วิพากษ์วิจารณ์ผ่านสื่อด้วยถ้อยคำที่ไม่สมควรหรือเหมาะสม และทำให้เกิดความเสียหายแก่การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพ หรือเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือภาพลักษณ์ของสมาคม หรือฝ่ายจัดการแข่งขัน ครั้งแรกปรับ 50,000 บาท และครั้งต่อไปปรับเพิ่มอีกครั้งละ 50,000 บาท

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการรีโว่ ไทยลีก (ไทยลีก 1) วันที่ 26 มกราคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร บีจี ปทุม ยูไนเต็ด พบ สโมสร ขอนแก่น ยูไนเต็ด 

- เหตุการณ์
เจ้าหน้าที่ Match Center ได้แจ้งให้ตรวจสอบการเปิดเพลงลงสนามโดยเน้นให้เปิดเพลง REVO THAI LEAGUE ซึ่งตอนประชุมผู้จัดการทีมได้แจ้งให้ทางผู้จัดการทีม และเจ้าหน้าที่ของทีมรับทราบอย่างเป็นทางการ เมื่อถึงเวลาก่อนการเปิดเพลงก็ได้ย้ำกับเจ้าหน้าที่อีกครั้ง เพื่อทราบและปฏิบัติ แต่เมื่อเปิดเพลงจริงๆ ก็ยังเปิดเพลง Born to be BG เหมือนเดิม จึงได้แจ้งให้ Match Center รับทราบ

- ผลพิจารณาโทษ 
ลงโทษสโมสรบีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไม่เปิดเพลงประจำการแข่งขัน ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.7 ปรับเงิน 10,000 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 5.3.7 ไม่ได้จัดให้มีธงประจำการแข่งขัน หรือเพลงประจำการแข่งขัน ตามที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน สำหรับการเดินเข้าสู่สนามเพื่อการเริ่มแข่งขัน

ครั้งแรกปรับกรณีละ 10,000 บาท
ครั้งที่สองปรับกรณีละ 20,000 บาท และปรับเงินเพิ่มเป็น 2 เท่า ในครั้งต่อ ๆ ไป

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 25 มกราคม 2568 คู่ระหว่างสโมสร ทัพหลวง ยูไนเต็ด พบ สโมสร กาญจนบุรี ซิตี้ 

- เหตุการณ์
1) สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด ไม่จัดรถพยาบาลตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน มีรถพยาบาล 1 คัน ตลอดการแข่งขัน
2) สโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด ไม่สามารถส่งหัวหน้าผู้ฝึกสอนลงทำหน้าที่ได้ตามระเบียบการแข่งขัน ซึ่งเป็นตำแหน่งบังคับ 

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษสโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด ไม่จัดรถพยาบาลตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับฯ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.12 วรรคแรก ปรับเงิน 20,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 5,000 บาท

2) ลงโทษสโมสรทัพหลวง ยูไนเต็ด หัวหน้าผู้ฝึกสอนไม่มาปฏิบัติหน้าที่ในวันแข่งขัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.27 ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 5.3.12 ต้องจัดรถพยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ พร้อมกับอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อรองรับการเจ็บป่วยฉุกเฉินของนักกีฬาฟุตบอลหรือผู้ชม จำนวน 2 คัน หรือตามจำนวนที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขันรายการนั้น ก่อนเริ่มเวลาการแข่งขันไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง 30 นาที มิฉะนั้นจะถูกปรับ

ครั้งแรก 20,000 บาท
ครั้งต่อไปครั้งละ 30,000 บาท

ข้อ 3.27 ทีมใดหัวหน้าผู้ฝึกสอนไม่มาปฏิบัติหน้าที่ในวันแข่งขัน โดยไม่มีเหตุอันสมควร จะถูกปรับเงิน 10,000 บาท