สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 8 ประจำฤดูกาล 2568/69

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 8 ประจำฤดูกาล 2568/69 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ซีล ไฟว์ ลีกสอง วันที่ 5 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรนครศรี ยูไนเต็ด พบ สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี (สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 81 ผู้เล่นหมายเลข 7 นายนันทวัฒน์ สวนแก้ว สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด ถูกผู้เล่นหมายเลข 17 นายจักรกฤษ สงมา สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี ดึงตัวและขัดขวางการเล่นจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาลว์ ทำให้ในจังหวะต่อมาสโมสรนครศรี ยูไนเต็ด เสียจุดโทษ

- ผลพิจารณา
1) ลงโทษนายสมคิด สาระพิมพ์ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 17 นายจักรกฤษ สงมา สโมสรหนองบัว พิชญ เอฟซี มีลักษณะการใช้ลำตัว มือแขน และท่อนขาในการโอบรัดเบียด หรือกีดขวางคู่แข่งขัน ซึ่งเป็นการกระทำผิดตามกติกาข้อ 12 (Fouls and Misconduct) เหตุการณ์ดังกล่าวผู้ตัดสินควรพิจารณาให้สโมสรนครศรี ยูไนเต็ด ได้ฟาลว์ในจังหวะแรก 

2) ลงโทษนายเสกสรร พันธ์ศรี ผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 4 สัปดาห์ เนื่องจากตรวจสอบเฉพาะจังหวะที่เป็นจุดโทษ โดยไม่ได้แจ้งให้ผู้ตัดสินตรวจสอบเหตุการณ์ก่อนหน้า (APP) ที่มีลักษณะการกระทำผิดของผู้เล่นฝ่ายรุกก่อนเกิดการต่อเนื่อง ถือว่าการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ตัดสินวีดิทัศน์ (VAR) ในกรณีนี้ไม่เป็นไปตาม VAR Protocol 

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 4 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรจามจุรี ยูไนเต็ด พบ สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด (สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 60.29 ผู้เล่นหมายเลข 2 นายวชิรพล ทับหิรัญ สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ถูกผู้รักษาประตูหมายเลข 77 นายรัตนพงษ์ สินยานันท์ สโมสรจามจุรี ยูไนเต็ด ออกมาสกัดบอลนอกกรอบเขตโทษจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาลว์ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า ผู้รักษาประตูทำการยกเท้าเปิดปุ่มสตั๊ดขึ้นสูงในลักษณะอันตราย ซึ่งเป็นการเล่นที่มีความเสี่ยงทำให้ผู้เล่นได้รับบาดเจ็บ จังหวะดังกล่าวควรเป็นการฟาลว์

- ผลพิจารณา
นายสราวุธ สุขสาลี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้รักษาประตูหมายเลข 77 นายรัตนพงษ์ สินยานันท์ สโมสรจามจุรี ยูไนเต็ด เข้าเล่นที่บอลตั้งแต่จังหวะแรก ซึ่งมีลักษณะการงอเท้าเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดขา และผู้เล่นทั้งสองฝ่ายสัมผัสบอลพร้อมกัน จึงถือว่าเป็นการแย่งบอลในลักษณะธรรมชาติของการแย่งชิง ผู้ตัดสินจึงพิจารณให้เล่นต่อไป โดยไม่ได้มีการเป่าฟาลว์ 

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 60.35 ผู้เล่นหมายเลข 19 Mr. JOHN OWOERI สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ถูกผู้เล่นหมายเลข 14 นายธันย์ทัพพ์ กิตติเจริญวิวัฒน์ สโมสรจามจุรี ยูไนเต็ด เข้าสกัดจากด้านหลังในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาลว์ ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า เป็นการเข้าปะทะที่มีความเสี่ยงอันตราย จังหวะดังกล่าวควรเป็นจุดโทษ 

- ผลพิจารณา
ลงโทษนายสราวุธ สุขสาลี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 14 นายธันย์ทัพพ์ กิตติเจริญวิวัฒน์ สโมสรจามจุรี ยูไนเต็ด เหวี่ยงเท้าไปถูกขาผู้เล่นหมายเลข 19 Mr. JOHN OWOERI สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ซึ่งเป็นการกระทำเข้าข่ายการทำผิดกติกาข้อ 12 (Fouls and Misconduct) ลักษณะ “เตะฝ่ายตรงข้าม” จังหวะดังกล่าวผู้ตัดสินควรเป่าฟาล์วให้สโมสรฟูเทร่า ยูไนเต็ด ได้เตะจุดโทษ  

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 4 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด พบ สโมสรสายมิตรกบินทร์ ยูไนเต็ด (สโมสรสายมิตรกบินทร์ ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ 
ในนาทีที่ 36 ผู้เล่นหมายเลข 17 นายศรกฤษณะ ศิริมานนท์ สโมสรสายมิตรกบินทร์ ยูไนเต็ด เปิดบอลไปโดนมือผู้เล่นหมายเลข 14 นายชินาธิป พร้อมทอง สโมสรปลวกเเดง ยูไนเต็ด ในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าฟาล์ว ซึ่งทางสโมสรฯ มองว่า มือของผู้เล่นหมายเลข 14 นายชินาธิป พร้อมทอง สโมสรปลวกเเดง ยูไนเต็ด พยายามทำให้ร่างกายใหญ่ขึ้น ถือว่าร่างกายผิดธรรมชาติและบอลโดนมืออย่างชัดเจน จังหวะดังกล่าวควรเป็นจุดโทษ 

- ผลพิจารณา
นายนราฤทธิ์ ศรีวรกุล ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 14 นายชินาธิป พร้อมทอง สโมสรปลวกแดง ยูไนเต็ด กำลังเคลื่อนตัวเพื่อเปลี่ยนทิศทาง แขนอยู่ในตำแหน่งลักษณะธรรมชาติของการเคลื่อนไหวและอยู่ชิดลำตัว เมื่อฝ่ายรุกเตะบอลในระยะประชิด ผู้เล่นฝ่ายรับไม่สามารถดึงมือหลบได้ทัน จึงไม่ถือว่าเป็นการเจตนาเล่นบอลด้วยมือ และไม่ได้เป็นการทำร่างกายให้ใหญ่ขึ้นอย่างไม่เป็นธรรมชาติ 

พิจารณาเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ เมืองไทย คัพ วันที่ 8 ตุลาคม 2568  คู่ระหว่างสโมสรพิษณุโลก เอฟซี พบ สโมสรพิจิตร ยูไนเต็ด 2025 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 36 ผู้เล่นหมายเลข 4 นายณพนันท์ ทิพย์อักษร สโมสรพิษณุโลก เอฟซี ถูกผู้เล่นหมายเลข 10 Mr.MICHAEL ARINZE ANUNOBI สโมสรพิจิตร ยูไนเต็ด ชกเข้าที่ท้ายทอยในขณะที่บอลอยู่นอกการเล่น และผู้ตัดสินได้เป่าเป็นการฟาวล์และได้เข้ามาปรึกษาผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ตัดสินลงโทษให้ใบแดงไล่ออกจากการแข่งขัน ด้วยเหตุผลเป็นการประพฤติผิดร้ายแรง จากนั้นเหตุต่อเนื่อง ผู้เล่นหมายลข 10 Mr.MICHAEL ARINZE ANUNOBI สโมสรพิจิตร ยูไนเต็ด ได้ชูนิ้วกลางสองมือใส่ผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 พร้อมกล่าวด้วยถ้อยคำหยาบคาย ก่อนเดินออกจากสนามไป 

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 10 Mr.MICHAEL ARINZE ANUNOBI สโมสรพิจิตร ยูไนเต็ด 2025 ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ ข้อ 1.9 ถูกพักการแข่งขัน 3 นัด และปรับเงิน 60,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการเมืองไทย คัพ จึงลงโทษปรับหนึ่งในสาม ปรับเงิน 20,000 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 1.9 ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือ ข่มขู่ หรือการเหยียดผิวหรือเชื้อชาติต่อบุคคลใด ด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย หรือการกระทำอื่นใดซึ่งสื่อถึงความหมายนั้น ทั้งภายในและภายนอกสถานที่จัดการแข่งขัน ก่อน ระหว่าง หรือหลังการแข่งขัน ถูกพักการแข่งขัน 1 ถึง 3 นัด และปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท 

หากมีการกระทำความผิดลักษณะเดียวกันซ้ำอีก อาจถูกพิจารณาเพิ่มโทษตามลักษณะโทษในหมวดที่ 1

5. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 11 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรบ้านค่าย ยูไนเต็ด พบ สโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ 3 เหตุการณ์

- เหตุการณ์ที่ 1 ในนาทีที่ 81 หลังจากสโมสรบ้านค่าย ยูไนเต็ด ได้ประตูตีเสมอ ได้มีผู้เล่นหมายเลข 11 ของสโมสรบ้านค่าย ยูไนเต็ด ขณะวิ่งกลับไปที่แดนตัวเอง ได้หันหน้าไปหากองเชียร์สโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ และยกมือขึ้นทั้ง 2 ข้างแล้วชี้ไปที่ตราสโมสรบ้านค่าย ยูไนเต็ด และชี้ลงไปที่พื้น เหมือนกำลังบ่งบอกว่าที่นี้บ้านค่าย ยูไนเต็ด ต่อหน้ากองเชียร์สโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ ที่นั่งอยู่บริเวณฝั่งขวามือตรงข้ามอัฒจันทร์หลัก ใส่เสื้อสีชมพู ซึ่งเป็นเสื้อเชียร์ของสโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ ทำให้กองเชียร์สโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ ไม่พอใจและวิ่งลงมาบริเวณหลังป้าย A BOARD ซึ่งไม่มีรั้วกั้น และได้ล้มป้าย A BOARD ลงเพื่อจะลงมาในสนาม แต่ไม่สามารถลงมาในสนามได้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ รปภ. ของทีมเจ้าบ้านที่อยู่บริเวณจุดนั้นได้เข้ามาขัดขวาง หลังจากนั้นผู้ตัดสินได้ทำการหยุดการแข่งขันชั่วคราว เนื่องจากเห็นว่ามีเหตุการณ์ไม่ปกติเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย หลังจากผู้ตัดสินได้หยุดเกมแล้วจึงเดินมาตรงบริเวณอัฒจันทร์หลักเพื่อปรึกษากับผู้ควบคุมการแข่งขันและผู้ตัดสินที่ 4  ผู้ควบคุมการแข่งขันเมื่อเห็นว่าเกมได้หยุดลง จึงได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ฝั่งอัฒจันทร์หลักไปช่วยระงับเหตุ ณ จุดเกิดเหตุ หลังจากนั้นเหตุการณ์ได้สงบลง ทางผู้ตัดสินจึงได้เรียกกัปตันทีมของทั้ง 2 ทีม และหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทั้ง 2 ทีม มาพูดคุยเพื่อให้ความเข้าใจที่ตรงกัน เมื่อพูดคุยกันเสร็จแล้วจึงได้ทำการแข่งขันต่อ รวมเวลาที่หยุดไปของเหตุการณ์นี้ประมาณ 9 นาที เพื่อทำการแข่งขันต่อ ผู้ตัดสินจึงชดเชยเวลาการแข่งขันเป็น 13 นาที การแข่งขันดำเนินการไปได้จนจบการแข่งขัน  

เหตุการณ์ที่ 2 หลังจากที่ผู้ตัดสินเป่าหมดเวลาการแข่งขัน ผู้ตัดสินได้เห็นว่า นายจีระยุทธ มณีโคตร ประธานสโมสรสโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ ได้เข้าไปในสนามแข่งขันด้วยท่าทางที่ไม่เหมาะสมโดยการพยายามจะวิ่งเข้ามาหาผู้ตัดสินเพื่อจะมาเอาเรื่องผู้ตัดสิน รวมถึงได้มีกลุ่มผู้เล่นของสโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ ได้เดินไปหาผู้ตัดสิน ผู้ตัดสินประเมินสถานการณ์ว่าไม่ปลอดภัย จึงได้เดินเลี่ยงออกมาทางด้านซ้ายมือของสนาม ในขณะนั้นได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุ และได้นำผู้ตัดสินเข้าห้องพักด้วยความปลอดภัย โดยที่ไม่มีเหตุบานปลาย

- ผลพิจารณาโทษ
1) เหตุการณ์ที่ 1 ลงโทษกองเชียร์สโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ ผ่านรั้วกั้นเข้าไปบริเวณพื้นที่รอบสนามแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.2 ปรับเงิน 20,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 5,000 บาท

2) เหตุการณ์ที่ 2 ลงโทษนายจีระยุทธ มณีโคตร ประธานสโมสรบีเอฟบี พัทยา ซิตี้ แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.5 ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.2 บุคคลหรือกลุ่มบุคคลใด ผ่านรั้วกั้นรอบสนามเข้าไปในบริเวณพื้นที่รอบสนามแข่งขัน หรือเข้าไปในสนามแข่งขัน ทั้งก่อน ระหว่าง และหลังจากการแข่งขัน โดยไม่ได้รับอนุญาต จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 50,000 บาท

การเข้าไปในสนามแข่งขันสามารถกระทำได้ หากทีมเยือนและเจ้าหน้าที่การแข่งขันได้เดินทางออกไปจากสถานที่จัดการแข่งขันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และฝ่ายจัดการแข่งขันอนุญาต
 
ข้อ 2.5 แสดงกิริยาที่ไม่เหมาะสมต่อหน้าสาธารณชน เช่น เข้าไปประท้วงการตัดสินของผู้ตัดสิน ผู้ช่วยผู้ตัดสิน แสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่เจ้าหน้าที่การแข่งขัน หรือกระทำการยั่วยุ อันอาจเป็นเหตุนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยในสถานที่จัดการแข่งขัน การแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ หรือใช้ภาษากายที่สังคมทั่วไปเห็นว่าไม่เหมาะสมต่อบุคคลใด หรือปลุกเร้านักกีฬาฟุตบอลอันอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่รุนแรง ทั้งก่อน ระหว่าง หรือหลังการแข่งขัน ถูกพักการทำหน้าที่ 2 นัด และปรับเงิน 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท

6. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 12 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี พบ สโมสรหัวหิน ซิตี้ 

- เหตุการณ์
ในช่วงพักครึ่งเวลาแรก เจ้าหน้าที่ทีม สโมสรสุพรรณบุรี เอฟซี ชื่อ ณัฐพัชร์ อุ่นวงษ์ ได้มาแจ้งผู้ควบคุมการแข่งขันให้ทราบว่ามีผู้เล่นหมายเลข 4 Mr.TAEMIN WOO สโมสรหัวหิน ซิตี้ ได้ทำลายกระจกห้องพักนักกีฬาเสียหาย ทางสโมสรหัวหิน ซิตี้ ได้ทราบแล้วจะทำการซ่อมแซมให้ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ ศูนย์สุพรรณบุรี

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 4 Mr.TAEMIN WOO สโมสรหัวหิน ซิตี้ ทำลายทรัพย์สินของสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.5 ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามราคาประเมินให้ผู้เสียหาย (ถ้ามี)

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 1.5 ทำลายทรัพย์สินของสถานที่จัดการแข่งขัน หรือของบุคคลใด ภายในสถานที่จัดการแข่งขัน ปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 20,000 บาท และชดใช้ค่าเสียหายตามราคาประเมินให้ผู้เสียหาย

7. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 11 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรสระบุรี ยูไนเต็ด พบ สโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี 

- เหตุการณ์
รถบัสนักกีฬาสโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี เดินทางมาถึงสนามแข่งขันเวลา 14.30 น. ช้ากว่ากำหนด OFFICIAL COUNTDOWN 1 ชั่วโมง (เวลาที่กำหนดคือเวลา 13.30 น.) ซึ่งผู้ควบคุมการแข่งขันได้โทรติดตามเป็นระยะและได้ทราบสาเหตุว่า เนื่องจากรถติดมากบนถนนเส้นทางสระบุรี แต่มีผู้ฝึกสอนบางส่วนเดินทางมาถึงและส่งใบรายชื่อก่อนและทันเวลาการประชุมทีม

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษสโมสรมหาวิทยาลัยปทุมธานี ไม่ทำตามกำหนดการ OFFICIAL COUNTDOWN มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 ความผิดครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี) 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
อ 3.6 ต้องทำตามกำหนดการ ขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) ภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะเป็นความผิด ไม่ว่าจะเริ่มการแข่งขันในเวลาได้หรือไม่ก็ตาม 

ครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)
ครั้งต่อไป จะถูกปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)

8. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการบีวายดี ดอลฟิน ลีกสาม วันที่ 12 ตุลาคม 2568 คู่ระหว่างสโมสรนครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ พบ สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด

- เหตุการณ์
สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด ลงจากห้องพักมายังจุดนัดหมายล่าช้า 6 นาที ตามเวลา OFFICIAL COUNTDOWN ทำให้การแข่งขันล่าช้า 2 นาที เริ่มการแข่งขันเวลา 15.32 น. (เวลาเริ่มทำการแข่งขัน 15.30 น.) โดยไล่เรียงเหตุการณ์ ดังนี้ เวลา 15.19 น. ผู้ควบคุมการแข่งขันได้มอบหมายให้ผู้ตัดสินที่ 4 ขึ้นไปบนห้องพักของสโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด เพื่อแจ้งให้ทีมทราบถึงเวลานัดหมายตามที่ตกลงกันในที่ประชุมว่านักกีฬาพร้อมกันบริเวณทางลงสนามเวลา 15.20 น. ผ่านไปถึงเวลา 15.25 น. สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด ยังไม่ลงมาผู้ควบคุมการแข่งขันจึงขึ้นไปตามบนห้องพักและแจ้งให้ทีมทราบว่าเลยเวลานัดมา 5 นาทีแล้ว สโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด ลงมาจากห้องพักถึงบริเวณจุดนัดหมายเวลา 15.27 น. ทำให้การเดินลงสนามล่าช้าไม่ตรงตามเวลา OFFICIAL COUNTDOWN และมีการบูมรวมทีมข้างสนามแข่งขันในขณะที่ถึงเวลาเริ่มการแข่งขัน ทำให้เริ่มการแข่งขันล่าช้าไป 2 นาที (15.32 น.)

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษสโมสรเขลางค์ ยูไนเต็ด ไม่ทำตามกำหนดการ OFFICIAL COUNTDOWN มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.6 ความผิดครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี) 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 3.6 ต้องทำตามกำหนดการ ขั้นตอน และการนับเวลาถอยหลัง (OFFICIAL COUNTDOWN) ภายในระยะเวลาที่กำหนด มิฉะนั้นจะเป็นความผิด ไม่ว่าจะเริ่มการแข่งขันในเวลาได้หรือไม่ก็ตาม 

ครั้งแรก เตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)
ครั้งต่อไป จะถูกปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 60,000 บาท และ/หรือ ชดใช้ค่าเสียหายให้กับสมาคม (ถ้ามี)