สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 13 ฟุตบอลรายการ ไทยลีก 3 ประจำฤดูกาล 2567/68

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 13 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน ได้พิจารณากรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ ไทยลีก 3

1.วันที่ 26 ตุลาคม 2567 คู่ระหว่างสโมสร กำแพงเพชร เอฟซี พบ สโมสร นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้  (สโมสรนครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1 
ในนาทีที่ 16 ผู้เล่นหมายเลข 8 นายนนทวัชร์ อ้นสืบสาย สโมสร นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ได้ครอบครองบอลและในจังหวะเดียวกันถูกผู้เล่นหมายเลข 8 Mr. SATOSHI KUROKAWA สโมสรกำแพงเพชร เอฟซี ได้ใช้ท่อนแขนขวาและลำตัวพร้อมด้วยขาขวาเข้ามาชนจากทางด้านหลัง ทำให้ผู้เล่นหมายเลข 8 นายนนทวัชร์ อ้นสืบสาย สโมสรนครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้พิจารณาให้เป็นการฟาล์วและให้เป็นลูกจุดโทษกับทางสโมสร นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ 
   
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายศุภณัฎฐ์ ยาอินตา ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 8 นายนนทวัชร์ อ้นสืบสาย สโมสร นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ได้ถึงลูกบอลก่อนและเตะลูกบอลออกไป ในจังหวะต่อมาได้ถูกผู้เล่นหมายเลข 8 Mr. SATOSHI KUROKAWA สโมสร กำแพงเพชร เอฟซี ที่เข้ามาช้าและชนเข้าบริเวณด้านข้างจนล้มลงในลักษณะที่ไม่มีเจตนาเล่นลูกบอล เป็นความผิดตามกติกาข้อ 12 Fouls and Misconduct ที่ต้องให้เตะโทษโดยตรง ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นในเขตโทษต้องให้เป็นการเตะโทษ ณ จุดโทษ 

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 90+1 ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. DEBIRO DZARMA BATA สโมสร นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ได้เลี้ยงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ และได้เตะหลบผู้เล่นหมายเลข 6 นายธีรวัฒน์ วราฤทธิวงศ์ สโมสร กำแพงเพชร เอฟซี ไปแล้วและในจังหวะต่อเนื่องถูกผู้เล่นคนดังกล่าวใช้ท่อนแขนขวาและขาขวาขวางไว้ ทำให้ผู้เล่นหมายเลข 9 Mr. DEBIRO DZARMA BATA สโมสร นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้ ล้มลงในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้พิจารณาให้เป็นการฟาล์วและให้เป็นลูกจุดโทษกับทางสโมสร นครสวรรค์ สี่แคว ซิตี้
   
- ผลพิจารณาโทษ
พฤติกรรมของผู้เล่นหมายเลข 6 นายธีรวัฒน์ วราฤทธิวงศ์ สโมสรกำแพงเพชร เอฟซี นั้นได้พยายามเข้ามาสกัดที่ลูกบอลแต่ไม่โดน ทำให้เกิดการชนปะทะกันขึ้นในลักษณะของการแย่งชิงลูกบอลปกติ เนื่องจากต่างคนต่างวิ่งเข้าหา โดยไม่มีการทำผิดกติกาผู้ตัดสินจึงให้เล่นต่อไป ถือว่านายศุภณัฎฐ์ ยาอินตา ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง

2. วันที่ 27 ตุลาคม 2567 คู่ระหว่างสโมสร มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ พบ สโมสร ลพบุรี ซิตี้ (สโมสรมหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ร้องเรียนมา 1 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 70 ผู้เล่นหมายเลข 22 นายพนมพร พวงมาลัย สโมสร มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ได้ตามไปเล่นบอล แต่เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มและแขนวางลงกับพื้นเพื่อพยุงร่างกาย โดยที่แขนได้ไปสัมผัสกับลูกบอลบริเวณเส้นออกหลังในกรอบ 6 หลา ซึ่งผู้ตัดสินได้พิจารณาว่าเป็นลูกแฮนด์บอลและให้เป็นลูกจุดโทษกับสโมสร ลพบุรี ซิตี้  
   
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายตฤณ สหชัยภัทร ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 6 สัปดาห์ เนื่องจากขณะที่ลูกบอลอยู่ในการเล่นของผู้เล่นหมายเลข 22 นายพนมพร พวงมาลัย สโมสร มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ ได้พยายามวิ่งเข้าไปเล่นลูกบอล แต่เกิดลื่นล้มโดยเป็นจังหวะอุบัติเหตุ ทำให้แขนไปสัมผัสที่ลูกบอลโดยไม่มีเจตนา ถือเป็นข้อยกเว้นของกติกาตามข้อ 12 Handling the ball ไม่ใช่ทุกครั้งที่มือหรือแขนของผู้เล่นสัมผัสลูกบอลแล้วจะเป็นการกระทำผิด  

3. วันที่ 27 ตุลาคม 2567 คู่ระหว่างสโมสร ปัตตานี เอฟซี พบ สโมสร เมืองตรัง ยูไนเต็ด (สโมสรเมืองตรัง ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1 
ในนาทีที่ 19 ผู้เล่นหมายเลข 32 นายภุชเคนทร์ จันแดง สโมสร เมืองตรัง ยูไนเต็ด ได้เตะลูกบอลผ่านผู้รักษาประตูของสโมสร ปัตตานี เอฟซี ข้ามเส้นประตูไปก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 26 Mr. MARLON HENRIQUE BRANDAO DA SILVA สโมสร ปัตตานี เอฟซี จะเตะออกมาจากหลังเส้นประตู แต่ผู้ตัดสินไม่ให้เป็นประตูแต่อย่างใด

- ผลพิจารณาโทษ
ให้ยกคำร้อง เนื่องจากคลิปภาพเหตุการณ์ไม่สามารถระบุชี้ชัดได้อย่างชัดเจนว่าลูกบอลได้ข้ามเส้นประตูแล้วหรือไม่ 

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 88 เป็นจังหวะโต้กลับของสโมสร ปัตตานี เอฟซี โดยผู้เล่นหมายเลข 4 นายยุทธพงษ์ ศรีละคร สโมสร เมืองตรัง ยูไนเต็ด ได้สกัดลูกบอลก่อนจะถึงเท้าผู้เล่นของสโมสร ปัตตานี เอฟซี โดยได้ถึงลูกฟุตบอลก่อนและเตะไปที่ลูกบอล ในขณะที่ผู้เล่นของสโมสร ปัตตานี เอฟซี ยังไม่ได้มีการครอบครองลูกฟุตบอลแต่อย่างใด ซึ่งผู้ตัดสินได้เป่าฟาล์วและให้ใบแดงโดยตรงแก่ผู้เล่นหมายเลข 4 นายยุทธพงษ์ ศรีละคร สโมสร เมืองตรัง ยูไนเต็ด
   
- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายจีรพันธ์ ยอดพุฒ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ผิดพลาด ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขันฯ ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (8) พักการปฏิบัติหน้าที่ 2 เดือน  เนื่องจากในขณะที่มีการวิ่งเข้าไปแย่งชิงลูกบอลของผู้เล่นทั้งสองทีม โดยผู้เล่นหมายเลข 4 นายยุทธพงษ์ ศรีละคร สโมสรเมืองตรัง ยูไนเต็ด ได้ถึงลูกบอลและเตะลูกบอลออกไปก่อนที่ผู้เล่นของสโมสรปัตตานี เอฟซี จะเข้ามาทีหลังและเกิดการชนปะทะกัน ซึ่งเป็นปกติของการเล่น การที่ผู้ตัดสินพิจารณาเป็นการฟาล์วและให้ใบแดงถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง

4. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร นรา ยูไนเต็ด พบ สโมสร ปัตตานี เอฟซี 

- เหตุการณ์
นาทีที่ 13 ของการแข่งขันได้มีผู้ชมขึ้นไปบนอัฒจันทร์ฝั่งตรงข้ามอัฒจันทร์ ซึ่งบริษัท ไทยลีก จำกัด ยังไม่ได้อนุญาตให้สโมสรใช้ในการนั่งชมการแข่งขันในครั้งนี้ โดยมีฝ่ายรักษาความปลอดภัยของสนามและโฆษกสนามได้พยายามห้ามปรามแต่ไม่สามารถห้ามปรามได้ ในที่ประชุมผู้จัดการทีม สโมสร นรา ยูไนเต็ด ได้แจ้งต่อที่ประชุมผู้จัดการทีม เรื่องฝ่ายรักษาความปลอดภัยโดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 24 นาย เจ้าหน้าที่ รปภ. 40 นาย กระจายตามจุดต่าง ๆ ทั่วสนาม  โดยลังจบการแข่งขัน มีการแจ้งยอดจำนวนผู้ชมในนัดนี้จำนวน 3,000 คน โดยความจุที่สโมสรได้แจ้งไปยังบริษัท ไทยลีก จำกัด จำนวน 2,000 คน ซึ่งในนัดนี้เกินความจุไป 1,000 คน 

- ผลพิจารณา
 1) ลงโทษสโมสร นรา ยูไนเต็ด ปล่อยปละละเลย หรือประมาทเลินเล่อ ให้กองเชียร์เข้าชมการแข่งขันเกินความจุของสถานที่จัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.16 วรรคสาม ปรับเงิน 100,000 บาท เนื่องจากสโมสร นรา ยูไนเต็ด ถูกลงโทษไปแล้วจากการกระทำผิด เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นการกระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 ให้พิจารณาเพิ่มโทษอีกไม่เกินกึ่งหนึ่งของกำหนดโทษที่จะลง จึงเพิ่มโทษสโมสรนรา ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 10,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 110,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 27,500 บาท และต้องชดใช้ค่าเสียหายหากมีเหตุเกิดขึ้นกับบุคคลใด หรือมี ผู้ที่ได้รับความเสียหายตามที่มีการเรียกร้องมา (หากมี)
 2) ลงโทษสโมสร นรา ยูไนเต็ด ปล่อยปละละเลยให้กองเชียร์ อยู่ในสถานที่ที่ไม่ได้จัดไว้ให้เป็นที่นั่ง  มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.17 ปรับเงิน 100,000 บาท เนื่องจากสโมสร นรา ยูไนเต็ด ถูกลงโทษไปแล้วจากการกระทำผิด เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นการกระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน ตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 ให้พิจารณาเพิ่มโทษอีกไม่เกินกึ่งหนึ่งของกำหนดโทษที่จะลง จึงเพิ่มโทษสโมสร นรา ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 10,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 110,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 27,500 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 5.3.16 องค์กรสมาชิกใดที่เป็นทีมเหย้า ยินยอมหรือปล่อยปละละเลย หรือประมาทเลินเล่อ ให้กองเชียร์เข้าชมการแข่งขันเกินความจุของสถานที่จัดการแข่งขัน หรือแจ้งจำนวนผู้ชมที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง จะถูกปรับเงิน ดังนี้     
ครั้งแรกปรับ 50,000 บาท
ครั้งต่อไปปรับเพิ่มเป็น 2 เท่า ของครั้งก่อน ๆ และต้องชดใช้ค่าเสียหายหากมีเหตุเกิดขึ้นกับบุคคลใด หรือมี ผู้ที่ได้รับความเสียหายตามที่มีการเรียกร้องมา
ข้อ 5.3.17 องค์กรสมาชิกใดที่เป็นทีมเหย้า ปล่อยปละละเลยให้กองเชียร์ อยู่ในสถานที่ที่ไม่ได้จัดไว้ให้เป็นที่นั่ง จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 50,000 บาท ถึง 100,000 บาท

5. วันที่ 2 พฤศจิกายน 2567  คู่ระหว่างสโมสร พัทลุง เอฟซี พบ สโมสร เอฟซี ยะลา 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 90+6 ผู้เล่นสโมสร เอฟซี ยะลา ได้แย่งชิงฟุตบอลกับผู้เล่นของสโมสร พัทลุง เอฟซี ในเขต 18 หลาแล้วล้มลงไปทั้งคู่ ซึ่งผู้ตัดสินเห็นว่าเป็นการชิงจังหวะแย่งชิงฟุตบอลกัน ไม่มีการทำฟาล์วจากกองหลังของสโมสร พัทลุง เอฟซี ผู้ตัดสินจึงสั่งให้เล่นต่อไป นายศุกรีย์ มะอิง ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู สโมสร เอฟซี ยะลา ไม่พอใจได้วิ่งเข้าไปคัดค้านโดยใช้ท่อนแขนผลักหน้าอกผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 และผู้เล่นหมายเลข 14 นายอาลีฟ ตีมุง สโมสร เอฟซี ยะลา ได้เข้าไปใช้มือชกที่หน้าอกผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ผู้ตัดสินจึงแยกทั้ง 2 ทีมออกจากกัน และได้ให้ใบแดงกับนายศุกรีย์ มะอิง ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู สโมสร เอฟซี ยะลา และให้ใบแดงกับผู้เล่นหมายเลข 14 นายอาลีฟ ตีมุง สโมสร เอฟซี ยะลา 

- ผลพิจารณา
1) ลงโทษเพิ่มเติม นายศุกรีย์ มะอิง ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู สโมสร เอฟซี ยะลา เจตนาทำร้ายร่างกายผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.8 (1) ปรับเงิน 60,000 บาท และถูกพักการทำหน้าที่ 3 เดือน เนื่องจากการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ให้เพิ่มโทษจากเดิมเป็น 2 เท่า จึงเพิ่มโทษปรับเงิน เป็นปรับเงิน 120,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 30,000 บาท และเพิ่มโทษถูกพักการทำหน้าที่เป็น 6 เดือน
2) ลงโทษเพิ่มเติม ผู้เล่นหมายเลข 14 นายอาลีฟ ตีมุง สโมสร เอฟซี ยะลา เจตนาทำร้ายร่างกายผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 2 ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.12 (1) ถูกพักการแข่งขันและห้ามเข้าสนาม 3 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท เนื่องจากเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน ให้เพิ่มโทษจากเดิมเป็น 2 เท่า จึงเพิ่มโทษถูกพักการแข่งขันและห้ามเข้าสนามเป็น 6 นัด และเพิ่มโทษปรับเงินเป็น 80,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 20,000 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 1.12 ทำร้ายร่างกาย บุคคลใด แต่ละกรณีมีโทษดังนี้ 
(1) ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้ถูกทำร้าย ถูกพักการแข่งขันและห้ามเข้าสนาม 1 ถึง 3 นัด และปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท
โทษตามข้อ (1) ถึง (3) หากเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ให้เพิ่มโทษจากเดิมเป็น 2 เท่า เว้นแต่ข้อ (4) เพิ่มแต่เฉพาะค่าปรับขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่า เท่านั้น

ข้อ 2.8 กรณีทำร้ายร่างกายบุคคลใด แต่ละกรณีมีโทษดังนี้
(1) ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้ถูกทำร้าย ปรับเงินตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 60,000 บาท และถูกพักการทำหน้าที่ 3 เดือน
โทษตามข้อ (1) ถึง (3) หากเป็นการกระทำต่อเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ให้เพิ่มโทษจากเดิมเป็น 2 เท่า เว้นแต่ข้อ (4) เพิ่มแต่เฉพาะค่าปรับขึ้นจากเดิมเป็น 2 เท่า เท่านั้น

6. วันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 คู่ระหว่างสโมสร วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี พบ สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ 

- เหตุการณ์
ในนาทีที่ 65  ขณะที่ผู้เล่นทั้งสองแย่งบอลกันลูกฟุตบอลได้ลอยออกด้านข้าง และผู้ตัดสินได้ให้สโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ นายณัฐนันท์ มั่นคง เจ้าหน้าที่ทีม สโมสร วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี จึงได้ถือลูกฟุตบอลเอาไว้ ขณะเดียวกันกับที่ผู้เล่นหมายเลข 14 นายอานนท์ ประสงค์พร สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ วิ่งเข้ามาบีบคอ นายณัฐนันท์ มั่นคง เจ้าหน้าที่ทีม สโมสร วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี ประกอบกับมี ผู้เล่นหมายเลข 17 นายปฏิภาณ ปิ่นเสริมสูตรศรี สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ อีกหนึ่งคนที่วิ่งเข้าไปด้วย นายณัฐนันท์ มั่นคง เจ้าหน้าที่ทีม สโมสร วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี จึงได้กระโดดถีบ ผู้เล่นหมายเลข 17 นายปฏิภาณ ปิ่นสูตรเสริมศรี สโมสรสมุทรสาคร ซิตี้ ไป 1 ครั้ง  ในนาทีที่ 72 ผู้ตัดสินให้ใบแดง นายณัฐนันท์ มั่นคง เจ้าหน้าที่ทีม สโมสร วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี 

- ผลพิจารณา
1) ลงโทษ ผู้เล่นหมายเลข 14 นายอานนท์ ประสงค์พร สโมสร สมุทรสาคร ซิตี้ เจตนาทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.12 (1) ถูกพักการแข่งขันและห้ามเข้าสนาม 2 นัด และปรับเงิน 40,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 10,000 บาท
2) ลงโทษเพิ่มเติม นายณัฐนันท์ มั่นคง เจ้าหน้าที่ทีม สโมสร วีอาร์เอ็น เมืองนนท์ เอฟซี เจตนาทำร้ายร่างกายบุคคลอื่น ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 2.8 (1) ปรับเงิน 60,000 บาท และถูกพักการทำหน้าที่ 3 เดือน แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 15,000 บาท 

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ 
ข้อ 1.12 ทำร้ายร่างกาย บุคคลใด แต่ละกรณีมีโทษดังนี้ 
(1) ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้ถูกทำร้าย ถูกพักการแข่งขันและห้ามเข้าสนาม 1 ถึง 3 นัด และปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท
ข้อ 2.8 กรณีทำร้ายร่างกายบุคคลใด แต่ละกรณีมีโทษดังนี้
(1) ไม่ถึงกับเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้ถูกทำร้าย ปรับเงินตั้งแต่ 40,000 บาท ถึง 60,000 บาท และถูกพักการทำหน้าที่ 3 เดือน