11 February 2025

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สรุปผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท ครั้งที่ 26 ประจำฤดูกาล 2567/68

เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา คณะกรรมการพิจารณาวินัย มารยาท จัดประชุม ครั้งที่ 26 ประจำฤดูกาล 2567/68 โดยมี นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ เป็นประธาน

พิจารณาเรื่องร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 คู่ระหว่างสโมสร เชียงใหม่ เอฟซี พบ สโมสร พิษณุโลก เอฟซี (สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี  ร้องเรียนมา 4 เหตุการณ์)

- เหตุการณ์ที่ 1
เหตุการณ์ที่ 1 ในนาทีที่ 17 จากจังหวะเตะมุมของสโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ผู้เล่นหมายเลข 11 นายพิชัย ทองวิลาศ สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ได้ยิงประตูเข้าไปนั้น ผู้ตัดสินได้เป่าว่าผู้เล่นหมายเลข 12 นายธนัท เรืองกลั่น สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ไปทำฟาล์วใส่ผู้เล่นหมายเลข 4 นายพิษณุ สีบุตรา สโมสร พิษณุโลก เอฟซี ก่อน จึงทำให้สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี เสียโอกาสในการที่จะทำประตูขึ้นนำ 1-0  

- ผลพิจารณาโทษ
พฤติกรรมของผู้เล่นหมายเลข 12 นายธนัท เรืองกลั่น สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ได้มีการกระโดดเข้าใส่ในลักษณะของการหนุนผู้เล่นหมายเลข 4 นายพิษณุ สีบุตรา สโมสร พิษณุโลก เอฟซี ทำให้เสียจังหวะในการโหม่งลูกบอลและล้มลง ถือเป็นการกระทำผิดตามกติกาข้อ 12 หน้า 105 เกี่ยวการกระทำผิดที่ให้เตะโทษโดยตรง ถือว่านายอัครชัย ขันทะลี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 45+2 ผู้เล่นหมายเลข 7 นายพิษณุศักดิ์ ชื่นบัวอินทร์ สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ยิงบอลจากนอกกรอบเขตโทษ ลูกบอลพุ่งไปแฉลบศีรษะของผู้เล่นหมายเลข 70 Mr. BRIGHT FRIDAY สโมสร พิษณุโลก เอฟซี ก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 4 นายเมธาวินท์ เชื้อนุ่น สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี จะใช้ศีรษะโหม่งเข้าประตู แต่ผู้ตัดสินได้เป่าฟาล์วแฮนด์บอลผู้เล่นหมายเลข 4 นายเมธาวินท์ เชื้อนุ่น สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี จึงทำให้สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี เสียโอกาสในการที่จะทำประตูขึ้นนำ 2-0 

- ผลพิจารณาโทษ
ยกคำร้อง เนื่องจากคลิปภาพเหตุการณ์ไม่ชัดเจน ไม่สามารถพิจารณาตามข้อเท็จจริงได้ว่า ลูกบอลมีการสัมผัสที่มือหรือแขนของผู้เล่นหมายเลข 4 นายเมธาวินท์ เชื้อนุ่น สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี หรือไม่ จึงไม่สามารถชี้ชัดหรือตัดสินใจไปทางใดทางหนึ่งได้ 

- เหตุการณ์ที่ 3
ในนาทีที่ 72 ผู้เล่นหมายเลข 13 Mr. PARK SANG-MYEONG สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ได้ครอบครองบอลและกำลังจะเลี้ยงบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ ได้ถูกผู้เล่นหมายเลข 10 นายทิวากร ศรีกัน สโมสร พิษณุโลก เอฟซี เข้ามาปะทะใส่ผู้เล่นดังกล่าวจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินไม่ได้มีเป่าฟาล์วแต่อย่างใด ทำให้สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี เสียโอกาสในการที่จะทำประตู

- ผลพิจารณาโทษ
พฤติกรรมของผู้เล่นหมายเลข 13 Mr. PARK SANG-MYEONG สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี และผู้เล่นหมายเลข 10 นายทิวากร ศรีกัน สโมสร พิษณุโลก เอฟซี ผู้เล่นทั้งสองอยู่ในระยะของการเล่นใกล้เคียงกัน และวิ่งไปในทิศทางเดียวกันเพื่อไปแย่งชิงลูกบอล ได้มีการชนกันที่เป็นแบบไหล่ต่อไหล่ ถือเป็นการชนโดยชอบของการเล่นฟุตบอล ผู้ตัดสินไม่มีการเป่าฟาล์ว ถือว่านายอัครชัย ขันทะลี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่ถูกต้อง

- เหตุการณ์ที่ 4
เหตุการณ์ที่ 4 ในนาทีที่ 88 ผู้เล่นหมายเลข 11 นายพิชัย ทองวิลาศ สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ และได้แตะลูกบอลได้ก่อนที่จะถูกผู้รักษาประตูหมายเลข 1 นายกริชชัย แสงรุ่ง สโมสร พิษณุโลก เอฟซี จะเข้ามาปะทะจนล้มลง แต่ผู้ตัดสินเป่าให้ผู้รักษาประตูสโมสร พิษณุโลก เอฟซี ได้ฟาล์ว ทำให้สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี เสียโอกาสในการที่จะทำประตู

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายอัครชัย ขันทะลี ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (2) ภาคทัณฑ์ เนื่องจากขณะที่มีการวิ่งเข้าเพื่อแย่งชิงลูกบอลในบริเวณเขตโทษ ผู้เล่นหมายเลข 11 นายพิชัย ทองวิลาศ สโมสร เชียงใหม่ เอฟซี ได้ยื่นเท้าไปเตะลูกบอลออกไป ขณะเดียวกันผู้รักษาประตูก็ได้วิ่งออกมาเพื่อป้องกันลูกบอล ทำให้เกิดการชนปะทะกันระหว่างผู้เล่นทั้งสอง ถือเป็นการปะทะที่หลบเลี่ยงไม่ได้ เป็นการเข้าแย่งชิงปกติของผู้เล่น ไม่มีการกระทำผิดของผู้เล่นทั้งสอง แต่ผู้ตัดสินเป่าให้ผู้เล่นฝ่ายรับได้ เนื่องจากเห็นว่าผู้เล่นฝ่ายรุกเล่นในลักษณะที่เป็นอันตรายและไปชนปะทะผู้รักษาประตู ถือว่าตัดสินไม่ถูกต้อง 

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลลีกอาชีพรายการไทยลีก 3 วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2568 คู่ระหว่างสโมสร หัวหิน ซิตี้ พบ สโมสร นนทบุรี ยูไนเต็ด (สโมสร นนทบุรี ยูไนเต็ด ร้องเรียนมา 2 เหตุการณ์) 

- เหตุการณ์ที่ 1
ในนาทีที่ 22 ผู้เล่นหมายเลข 4 นายพีรวิชญ์ อรุณรัตน์ สโมสร นนทบุรี ยูไนเต็ด ได้เตะลูกบอลไปโดนมือผู้เล่นหมายเลข 23 นายสราวุธ เชิญชัย ผู้เล่นสโมสร หัวหิน ซิตี้ ที่ยกมือขึ้นมาผิดธรรมชาติ แต่ผู้ตัดสินไม่เป่าให้ฟาล์วแฮนด์บอล จนนำไปสู่จังหวะต่อเนื่องในการทำประตูตีเสมอของสโมสร หัวหิน ซิตี้ 

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษนายวินัย เรียงวงษ์ ผู้ตัดสิน ปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง ตามระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่การแข่งขัน ตามบทลงโทษหมวดที่ 9 ลักษณะโทษ ข้อ 57 (2) ภาคทัณฑ์ เนื่องจากผู้เล่นหมายเลข 23 นายสราวุธ เชิญชัย สโมสร หัวหิน ซิตี้ ได้ยกแขนขึ้นมาเพื่อป้องกันตนเอง ทำให้มือได้ไปสัมผัสลูกบอลในลักษณะที่แขนยื่นออกไปข้างหน้า ถือเป็นการกระทำที่สุ่มเสี่ยงและทำให้ร่างกายใหญ่ขึ้นโดยไม่เป็นธรรมชาติ ถือเป็นความผิดตามกติกาข้อ 12 หน้า 106 และจากที่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับการเป็นประตูนั้น เวลาค่อนข้างห่างกันพอควร และการเล่นได้เปลี่ยนรูปแบบไปแล้ว จึงเห็นว่า เป็นต่างกรรมต่างวาระไม่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  

- เหตุการณ์ที่ 2
ในนาทีที่ 72 จากจังหวะเตะมุมผู้เล่นสโมสร หัวหิน ซิตี้ ลูกบอลได้ไปสัมผัสโดนแขนผู้เล่นหมายเลข 27 นายธันวา หงษ์เวียงจันทร์ สโมสร หัวหิน ซิตี้ ซึ่งได้ทำการกางแขนโดยผิดธรรมชาติ ก่อนที่ผู้เล่นหมายเลข 10 BRENO SOUZA DIAS สโมสร หัวหิน ซิตี้ จะทำประตูเข้าไป แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาล์วแฮนด์บอล ทำให้สโมสร หัวหิน ซิตี้ ได้ประตูขึ้นนำ 

- ผลพิจารณาโทษ
ยกคำร้อง เนื่องจากภาพเหตุการณ์ไม่ชัดเจน ไม่สามารถพิจารณาตามข้อเท็จจริงได้ว่าลูกบอลมีการสัมผัสที่มือหรือแขนของผู้เล่นหมายเลข 27 นายธันวา หงษ์เวียงจันทร์ สโมสร หัวหิน ซิตี้ หรือไม่ จึงไม่สามารถชี้ชัดหรือตัดสินใจไปทางใดทางหนึ่งได้ 

กรณีเหตุการณ์ไม่ปกติของการแข่งขันกีฬาฟุตบอล

1. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการ เมืองไทย ลีก (ไทยลีก 2) วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2568 คู่ระหว่างสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด พบ สโมสร นครศรี ยูไนเต็ด

- เหตุการณ์
1) หลังจากสโมสร นครศรี ยูไนเต็ด ทำประตูได้ในนาทีที่ 58 มีการหยุดการแข่งขันประมาณ 5 นาที โดยผู้ตัดสินได้แจ้งว่า ผู้รักษาประตูของสโมสร นครศรี ยูไนเต็ด แจ้งผู้ช่วยผู้ตัดสินที่ 1 ว่า กองเชียร์ของสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ที่อยู่บริเวณหลังประตู ได้ขว้างปาก้อนน้ำแข็งจำนวนหนึ่งมาใส่แต่ไม่โดน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้เข้าไปดูแลป้องกันทำให้การแข่งขันดำเนินต่อไป เหตุการณ์ต่อเนื่องกันกองเชียร์สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ไม่พอใจการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินและตะโกนเป็นหมู่คณะด้วยถ้อยคำหยาบคายหลายครั้ง 

2) หลังหมดเวลาแข่งขัน (เวลา 20.30 น.) ได้มีกลุ่มกองเชียร์ของสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ประมาณ 50-60 คน ได้มารวมกันบริเวณด้านนอกสถานที่จัดการแข่งขันบริเวณถนนหน้าทางเข้าอัฒจันทร์หลัก และตะโกนด่า เมื่อเวลา 21.30 น. ผู้ตัดสินพร้อมกับเจ้าหน้าที่ รปภ. ออกจากห้องพักผู้ตัดสินแล้วเดินผ่านสนามไปทางทิศใต้ของสนามเพื่อจะไปที่รถเพื่อเดินทางกลับ ไปถึงประตูสนามออกไม่ได้เพราะมีกลุ่มบุคคลข้างนอกจำนวนประมาณ 10 คน ยืนดักรออยู่แล้วตะโกนมาว่า ทีมงานผู้ตัดสินเห็นว่าไม่ปลอดภัยจึงให้กุญแจรถกับ SO (คุณสุรศักดิ์ บูรพันธ์) เพื่อให้นำรถมารับที่หน้าอัฒจันทร์ และทีมงานผู้ตัดสินกลับมารอยังห้องพักอีกครั้ง ทำให้ผู้ตัดสินอยู่ในห้องพักผู้ตัดสิน ตั้งแต่หมดเวลาการแข่งขัน เวลา 20.30 น. จนถึง 22.30 น. จนกระทั่งเวลา 22.30 น.ได้มีตำรวจสายตรวจได้เข้ามาดูแลความเรียบร้อย และ GC (คุณกวินภัค) ได้ขับรถพาทีมงานผู้ตัดสินออกจากสนามได้อย่างปลอดภัยเพื่อไปสู่จุดนัดหมายเพื่อรับรถที่นัดหมายไว้ โดยการแข่งขันนัดนี้ได้รับแจ้งจาก GC (คุณกวินภัค) ว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 10 นาย เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 30 คน ผู้เข้าชมทั้งหมด 2,113 คน

- ผลพิจารณาโทษ
1) ลงโทษกองเชียร์สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 วรรคสอง ปรับเงิน 40,000 บาท เนื่องจากสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ถูกลงโทษไปแล้วจากการกระทำผิด เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2567 เป็นการกระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน จึงเพิ่มโทษสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 20,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 60,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 40,000 บาท

2) ลงโทษกองเชียร์สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ขว้างปาน้ำแข็งใส่นักกีฬาทีมคู่แข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.4 ปรับเงิน 40,000 บาท เนื่องจากสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ถูกลงโทษไปแล้วจากการกระทำผิด เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2567 เป็นการกระทำความผิดตามระเบียบนี้ซ้ำในข้อเดียวกันภายในฤดูกาลแข่งขันเดียวกัน จึงเพิ่มโทษสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ปรับเงินเพิ่มอีก 20,000 บาท รวมโทษปรับเงิน 60,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 40,000 บาท

3) ลงโทษกองเชียร์สโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ขัดขวางรุมล้อมและคุกคามเจ้าหน้าที่การแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.7 ปรับเงิน 60,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 40,000 บาท

4) ลงโทษสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ไม่ควบคุมบุคคลใดจนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่การแข่งขันถูกรุมล้อม จนไม่สามารถออกจากสถานที่จัดการแข่งขันได้ ภายใน 1 ชั่วโมง นับแต่เวลาการแข่งขันสิ้นสุดลง มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 3.16 ครั้งแรกปรับ 30,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 20,000 บาท และห้ามองค์กรสมาชิกทีมเหย้าจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัด  และเนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการกระทำของกองเชียร์ เพื่อเป็นการป้องกันเหตุจึงเห็นควรอาศัยอำนาจตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 1 ข้อ 3.3 ห้ามกองเชียร์เข้าสถานที่จัดการแข่งขัน โดยอนุญาตเฉพาะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขันของทั้งสองสโมสร และเจ้าหน้าที่ส่วนกลางของสมาคม เข้าไปทำหน้าที่ในการแข่งขันนัดดังกล่าวเท่านั้น 

5) ลงโทษสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด มีข้อบกพร่องในระบบงานรักษาความปลอดภัย ที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (3) ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 6,666 บาท

6) ลงโทษสโมสร พัทยา ยูไนเต็ด ปล่อยให้มีการขัดขวางรุมล้อม หรือคุกคาม บุคคลใด ในสถานที่จัดการแข่งขัน จนอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความไม่ปลอดภัยและไม่สามารถออกจากสถานที่จัดการแข่งขัน เกินกว่า 1 ชั่วโมง มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.3.18 (5) ปรับเงิน 50,000 บาท แต่เนื่องจากเป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 2 จึงลงโทษปรับสองในสาม ปรับเงิน 33,333 บาท

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 3.16 องค์กรสมาชิกทีมเหย้าใด ไม่จัดหน่วยรักษาความปลอดภัยเจ้าหน้าที่การแข่งขัน หรือไม่ควบคุมบุคคลใด จนเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่การแข่งขันถูกรุมล้อม หรือกักขัง จนไม่สามารถเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ในสถานที่จัดการแข่งขันได้ หรือไม่สามารถออกจากสถานที่จัดการแข่งขันได้ ภายใน 1 ชั่วโมง นับแต่เวลาการแข่งขันสิ้นสุดลงอย่างปลอดภัย มีโทษดังนี้ 

ครั้งแรกปรับ 30,000 บาท และห้ามองค์กรสมาชิกทีมเหย้าจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัด
ครั้งที่สองปรับ 60,000 บาท และห้ามองค์กรสมาชิกทีมเหย้าจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 3 นัด และถูกตัดคะแนน 3 คะแนน
ครั้งที่สามปรับ 120,000 บาท และห้ามองค์กรสมาชิกทีมเหย้าจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้าตลอดฤดูกาลแข่งขัน และถูกตัดคะแนน 6 คะแนน
 
ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท

หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท  

หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด

ข้อ 4.4 กองเชียร์ทีมใด หรือกลุ่มบุคคลใด หรือบุคคลใด ขว้างปาหรือกระทำด้วยประการใด ให้วัสดุหรือสิ่งของอื่นใด เข้าไปในสนามก็ดี หรือกระทำต่อนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน หรือเจ้าหน้าที่การแข่งขันก็ดี องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่เป็นผู้กระทำ และ/หรือ องค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้าที่ปล่อยให้มีการกระทำดังกล่าวต้องรับโทษ จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท

ข้อ 4.7 ขัดขวางรุมล้อม หรือคุกคาม เจ้าหน้าที่การแข่งขัน หรือนักกีฬาฟุตบอล หรือเจ้าหน้าที่ทีม หรือกองเชียร์ทีมคู่แข่งขัน ในสถานที่จัดการแข่งขัน จนอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความไม่ปลอดภัย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 60,000 บาท 

องค์กรสมาชิกทีมเหย้า มีความผิดต้องรับโทษตามข้อ 5.3.18 แล้วแต่กรณี

หากเกิดขึ้นระหว่างการแข่งขัน ทำให้การแข่งขันนัดนั้นต้องยุติลง องค์กรสมาชิกต้นสังกัดของกองเชียร์ที่ก่อเหตุ จะถูกปรับเงิน 100,000 บาท และรับผิดชอบค่าเสียหายตามที่ฝ่ายสิทธิประโยชน์เรียกร้องมา และถูกปรับแพ้

ข้อ 5.3.18 ความบกพร่องด้านการรักษาความปลอดภัยในวันแข่งขัน

(3) หากองค์กรสมาชิกที่เป็นทีมเหย้า มีข้อบกพร่องในระบบงานรักษาความปลอดภัย ที่กำหนดไว้ในระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการจัดการแข่งขัน ในแต่ละรายการแข่งขัน จะถูกลงโทษปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท และ/หรือ ห้ามจัดการแข่งขันในฐานะทีมเหย้า 1 นัดเป็นอย่างน้อย จนกว่าจะแก้ไขข้อบกพร่องที่เกิดขึ้นให้ผ่านการรับรองจากฝ่ายจัดการแข่งขัน

(5) ปล่อยให้มีการขัดขวางรุมล้อม หรือคุกคาม บุคคลใด ในสถานที่จัดการแข่งขัน จนอาจจะเป็นเหตุให้เกิดความไม่ปลอดภัยและไม่สามารถออกจากสถานที่จัดการแข่งขัน เกินกว่า 1 ชั่วโมง นับแต่ก่อเหตุ จะถูกปรับเงิน 50,000 บาท

2. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 คู่ระหว่างสโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด พบ สโมสร ราชประชา 

- เหตุการณ์
หลังจากที่ผู้ตัดสินเป่านกหวีดหมดเวลาการแข่งขันในครึ่งเวลาหลัง ซึ่งผลการแข่งขันเสมอกัน 2 ประตู 2 ขณะที่ผู้ตัดสินกำลังเดินกลับเข้าห้องพัก ได้มีกลุ่มกองเชียร์สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด ใส่เสื้อสีน้ำเงิน แดง เดินมาบริเวณอัฒจันทร์ด้านหน้าที่ผู้ควบคุมการแข่งขันและผู้ประเมินผู้ตัดสินปฏิบัติหน้าที่อยู่ด้านบน ได้ตะโกนด่ากลุ่มผู้ตัดสินด้วยถ้อยคำหยาบคาย ตลอดเวลาที่เดินกลับเข้าห้องพัก เนื่องจากไม่พอใจผลการแข่งขันที่สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด โดนตีเสมอช่วงท้ายเกมและเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่ผู้เล่นของสโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด ไม่ได้ฟาวล์บริเวณมุมธงฝั่งด้านซ้ายของทีมเยือน

- ผลพิจารณาโทษ
 ลงโทษกองเชียร์สโมสร ธนบุรี ยูไนเต็ด ด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 4.1 วรรคแรก ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท  

- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 4.1 ด่าบุคคลใด ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย หรือเยาะเย้ย ดูหมิ่น เหยียดหยาม หรือแสดงกิริยาก้าวร้าว ข่มขู่ เช่น การเหยียดผิวหรือเชื้อชาติบุคคลใดด้วยพฤติกรรมที่ชัดแจ้ง ทั้งภาษากาย จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 30,000 บาท 

หากการกระทำผิดตามวรรคแรก กระทำโดยบุคคลหลายคนโดยพร้อมเพรียงกัน จะถูกปรับเงินตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 40,000 บาท  

หากเป็นการกระทำโดยผ่านเครื่องโทรโข่ง หรือเครื่องขยายเสียงประกอบการเชียร์ หรือถ่ายทอดสดผ่านทางสื่อออนไลน์ ปรับเงินตั้งแต่ 30,000 บาท ถึง 50,000 บาท และห้ามนำอุปกรณ์ดังกล่าวเข้าสถานที่จัดการแข่งขัน 1 ถึง 4 นัด

3. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 คู่ระหว่างสโมสร BFB พัทยา ซิตี้ พบ สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ 

- เหตุการณ์
ผู้เล่นหมายเลข 4 นายทิวา แสงสมบูรณ์ สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ ไม่ได้นำ AD CARD มาในวันแข่งขัน นายปริญญ์ รัตนภุมมะ ผู้ช่วยผู้จัดการทีม สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ แจ้งว่าทำ AD CARD สูญหาย ผู้ควบคุมการแข่งขันจึงแจ้งมายังส่วนกลางเพื่อขอ AD CARD ชั่วคราวแทน ในเวลา 12.40 น.

- ผลพิจารณาโทษ
ลงโทษผู้เล่นหมายเลข 4 นายทิวา แสงสมบูรณ์ สโมสร แปดริ้ว ซิตี้ ไม่พกพา AD Card ติดตัวมาแสดงในวันแข่งขัน  มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 1.2 ปรับเงิน 10,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 2,500 บาท 
  
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
 ข้อ 1.2 กรณีไม่พกพา AD Card ติดตัวมาแสดงในวันแข่งขัน ปรับเงินคนละ 10,000 บาท      

4. การแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 คู่ระหว่างสโมสร เอฟซี ยะลา พบ สโมสร พีที สตูล เอฟซี 

- เหตุการณ์
ในวันแข่งขัน ผู้ควบคุมการแข่งขันเดินทางมาถึงสนามและได้ทำการตรวจสภาพสนามแข่งขันพบว่า พื้นสนามมีหญ้าปกคลุมไม่ทั่วทั้งสนาม โดยมีหญ้าบางหลายจุด พื้นสนามส่วนใหญ่เป็นทรายละเอียด 

- ผลพิจารณาโทษ
สโมสร เอฟซี ยะลา สนามแข่งขันไม่สมบูรณ์ มีความผิดตามระเบียบว่าด้วยการลงโทษฯ บทที่ 3 หมวดที่ 2 ข้อ 5.1.8 ครั้งแรก ปรับเงิน 50,000 บาท แต่เป็นการแข่งขันกีฬาฟุตบอลรายการไทยลีก 3 จึงลงโทษปรับหนึ่งในสี่ ปรับเงิน 12,500 บาท 
  
- ระเบียบว่าด้วยการลงโทษ
ข้อ 5.1.8 พื้นสนามที่ใช้แข่งขันไม่สมบูรณ์ กล่าวคือ พื้นสนามแข็งมาก หรือไม่เรียบ หรือมีหญ้าปกคลุมไม่ทั่ว โดยเฉพาะบริเวณเขตโทษหรือเขตประตู หรือเส้นแสดงเขตต่าง ๆ ไม่ชัดเจน แต่ละกรณีมีโทษดังนี้

ครั้งแรกปรับ 50,000 บาท

ครั้งที่สองห้ามใช้แข่งขันชั่วคราว

ครั้งที่สามห้ามใช้ตลอดฤดูกาล

ข่าวสารอื่นๆ

Organization

10 February 2025

ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568

ประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568

Development

10 February 2025

สมาคมฯ ทดสอบระบบ VAR Light เตรียมใช้ครบทุกสนามในศึกเมืองไทย ลีก เดือนมีนาคมนี้

สมาคมฯ ทดสอบระบบ VAR Light เตรียมใช้ครบทุกสนามในศึกเมืองไทย ลีก เดือนมีนาคมนี้

National Team Men

08 February 2025

OFFICIAL! ประกาศ : รายชื่อ 23 แข้ง ฟุตบอลชายทีมชาติไทย U20 ลุยศึก ชิงแชมป์เอเชีย ที่จีน

OFFICIAL! ประกาศ : รายชื่อ 23 แข้ง ฟุตบอลชายทีมชาติไทย U20 ลุยศึก ชิงแชมป์เอเชีย ที่จีน